คอลัมน์ ไอคิวทะลุฟ้า: โคมไฟทรงหัวปลี งานทำมือน.ศ.มทร.ธัญบุรี

ข่าวสด ฉบับวันที่ 02 สิงหาคม พ.ศ. 2560
โคมไฟติดผนังรูปทรงหัวปลี ผลงานของ น้องแป้ง น.ส.กัญญารัตน์ เนตรประสม นักศึกษาสาขาวิชาหัตถกรรม คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นับเป็นงานทำมือที่สวยเก๋ไม่เหมือนใคร
น้องแป้งเล่าว่า ศิลปะมีบทบาทในการใช้ชีวิตของมนุษย์มากขึ้น นอก จากการให้แสงสว่างแล้วโคมไฟสามารถ บอกสไตล์และรสนิยมเจ้าของบ้านได้อย่างดี โคมไฟในปัจจุบันก็มีให้เลือกหลากหลาย ส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่คงทนแข็งแรงเป็นหลัก น้อยชิ้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีเอกลักษณ์
เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้บุคคลทั่วไปรู้จักและนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างกำไรให้ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไปในตัว จึงศึกษาและพัฒนาโคมไฟจากการหาข้อมูลตามแหล่งข้อมูลต่างๆ พบว่าผลิตภัณฑ์เชือกกล้วยเป็นวัสดุที่น่าสนใจ โดยส่วนใหญ่จะนำมาทอเสื่อหรือใช้ผูกของ ตลอดจนทำสิ่งทอและเครื่องใช้อื่นๆ จึงนำเชือกกล้วยมาเป็นวัสดุหลักในการออกแบบและพัฒนาโคมไฟติดผนังทรงหัวปลี
เชือกกล้วยได้จากการลอกเอากาบกล้วยออกจากลำต้น นำมาพาดบนราวไม้ไผ่ ใช้มีดกรีดให้เป็นเส้นๆ หลายเส้น จากนั้นนำไปตากแดดจนแห้ง จะได้เส้นเชือกยาวตามที่ต้องการ เชือกกล้วยที่นำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัท บานาน่า โพรดักส์ ดีไซน์ จำกัด จากที่เหลือใช้ มาแปลงสภาพและสร้างประโยชน์เพิ่มมูลค่า ต่อยอดความคิดให้ผลิตภัณฑ์จากต้นกล้วยเป็นที่ยอมรับ กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับแนวคิดในการออกแบบ “โคมไฟติดผนังทรงหัวปลี”น้องแป้งเผยว่ามาจากหัวปลีที่กำลังค่อยๆ คลี่กาบซึ่งมีผลกล้วยซ่อนอยู่ภายในหลายผลรวมกัน เป็นลักษณะธรรมชาติที่เป็นจุดเด่นของหัวปลี ลักษณะด้านในของหัวปลีที่ผลกล้วยทับซ้อนกันเป็นลักษณะเส้นๆ ปกคลุมด้วยกาบรอเวลาออกมาเป็นผลกล้วย
สีที่เป็นเอกลักษณ์ของหัวปลี ผสมกับรูปแบบที่ผู้ศึกษาออกแบบแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของหัวปลีอยู่ ผ่านเทคนิคการสานเชือกกล้วยที่ทำด้วยมือ เกิดเป็นผลิตภัณฑ์โคมไฟติดผนังรูปทรงหัวปลี จำนวน 3 ชิ้น ขนาด 14×35 ซ.ม. จำนวน 2 ชิ้น และขนาด 16×40 ซ.ม. จำนวน 1 ชิ้น
“สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับวัสดุเหลือใช้หรือการนำของรอบตัวมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สื่อวัฒนธรรมการดำรงชีวิตในอดีต ควรศึกษาตั้งแต่ภูมิปัญญาความเป็นอยู่ ผนวกกับแนวความคิดเพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับการใช้งานในอนาคตต่อไป” น้องแป้งกล่าวทิ้งท้าย

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]