ทรงเป็นแบบอย่างก้าวเดินสู่ความสำเร็จ

คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2560
จักรวาล ส่าเหล่ทู
สำนักข่าวเนชั่น
เหลืออีกเพียง 6 วัน ก็จะถึงวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่สำนักพระราชวัง ได้ประกาศให้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิต มหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศรอบบริเวณสนามหลวง จะเห็นได้ว่ามีประชาชนเป็นจำนวนมากจากทั่วประเทศยังคงรอคอยกราบพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครจากภาคส่วนต่างๆ
จุฑารัตน์ ผมงาม คณะนิเทศศาสตร์ ปีที่ 3 ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า ดีใจที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสมากราบพระบรมศพ
“ด้วยความรู้สึกส่วนตัวแล้ว พระองค์ท่านคอยสอนเราในสิ่งที่ดีต่างๆ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีในการทรงงานเสมอมา ซึ่งคำสอนที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่สอนรู้จักพอดี และพอใจกับสิ่งที่มี รวมถึงการประหยัดอดออม โดยภาพของหลอดยาสีฟันที่ใช้จนหมดจริงๆ ก็ถือเป็นอีกภาพที่ทำให้เราเห็นชัดในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเราก็นำมาปรับใช้ แม้ว่าพระองค์ท่านจะเสด็จสวรรคตเกือบครบระยะเวลา 1 ปีแล้ว ก็ยังคงคิดถึงท่าน ในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประชาชนจริงๆ”
รุ่งดาวรรณ ชูสุข คณะสื่อสารมวลชน ปีที่ 3 มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า เคยมากราบพระบรมศพ 3 ครั้งแล้ว สาเหตุที่มาหลายครั้งเป็นเพราะที่ผ่านมาเห็นพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อเรามามาก จึงอยากที่จะแสดงการตอบแทนและความอาลัย ถึงแม้ว่าการมาแต่ละครั้งจะรอเป็นเวลานานมากก็จริง แต่ทุกครั้งก็มาด้วยใจจริง พอเข้าไปถึงหน้าพระ บรมโกศก็หายเหนื่อย
“สำหรับคำสอนของพระองค์ท่านที่ยึดถือมาตลอดคือ พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ ม.มหิดล ปี 2533 ที่มีใจความว่า “…เมื่อจะเริ่มงานสิ่งใด ให้พยายามคิด พิจารณาให้เห็นจุดหมายเห็นสาระและประโยชน์ที่แท้จริงของงานนั้นอย่างแจ่มแจ้ง แล้วจึงลงมือทำด้วยความตั้งใจ มั่นใจ ด้วยความรับผิดชอบอย่างสูง ให้ดำเนินลุล่วงตลอดไปอย่างต่อเนื่อง โดยมิให้บกพร่อง เสียหาย…” ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายึดถือในการเรียน มาตลอด โดยพยายามตั้งเป้าด้วยความตั้งใจ เพื่อให้ไปสู่ความสำเร็จ”
สุกัญญา ไชยะกิจ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสมาสักการะพระบรมศพ แม้ว่าจะ รอเป็นเวลานาน แต่ก็รอได้ อีกทั้งยังมี อาสาสมัครคอยช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ด้วย
“พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินงานต่างๆ รวมถึงมีโครงการดีๆ เพื่อประชาชนของพระองค์ท่านให้อยู่ดีมีสุขด้วย นอกจากนี้คำสอนของท่านเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ยังถือเป็นหลักที่ปฏิบัติได้ ให้เราพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ และไม่ฟุ่มเฟือย นี่จึงเป็นคำสอนที่เราได้ยึดถือทำในชีวิตประจำวันของเรา และหลายๆ คนด้วย”
สิริศักดิ์ กระแสโทคณะวิศวกรรมแม่พิมพ์ ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ กล่าวว่า แม้ว่าวันนี้อากาศจะร้อนนิดหน่อย และรอนานแต่ก็ไม่ได้ทำให้ท้อ ด้วยตั้งใจอยากจะกราบพระบรมศพ อย่างน้อยสักครั้ง
“ที่ผ่านมาผมได้เห็นพระองค์ท่านทรงงานหนัก และสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง อย่างบ้านของผมเองก็อยู่ต่างจังหวัด จะเห็นได้ว่าบางโครงการนั้นทำให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดีขึ้นเยอะ เอาชนะภัยแล้งได้ ส่วนตัวได้แนวคิดของพระองค์ท่านเยอะในการใช้ชีวิตประจำวัน หลักๆ คือเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนเรื่องการเรียนนั้นก็เป็นหลักเรื่องความอดทน เหมือนอย่างที่พระองค์ท่านทรงอดทนลงในพื้นที่ต่างๆ ในการทรงงานแต่ละครั้ง สำหรับความรู้สึกช่วงนี้ที่ใกล้พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ผมก็ใจหาย เหมือนว่าระยะเวลา 1 ปีนั้นผ่านไปเร็วมากจริงๆ”
วิศรุต เอี่ยมสมบัติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีที่ 3 มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า รู้สึกว่าเป็นเกียรติที่หนึ่งครั้งในชีวิตได้มาสักการะพระบรมศพและการที่รอเป็นเวลานานร่วม 10 ชม. แต่แค่วันเดียวก็ไม่อาจเทียบกับความเหน็ดเหนื่อยของพระองค์ท่านได้ “ที่ผ่านมาผมเห็นว่าพระองค์ท่านได้พยายามทรงงานเพื่อประชาชนอย่างเราๆ หลายอย่าง และ ทรงงานหนักเกือบตลอดพระชนมายุของท่าน ส่วนคำสอนที่ผมได้ยินบ่อยๆ และนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันก็คือเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงที่พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ รวมถึงคำสอนต่างๆ ในเรื่องของการวิศรุต เอี่ยมสมบัติเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนรอบข้าง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม และไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน”

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]