พลัง”ค่ายราชมงคลอาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติ”เพื่อน้อง”35 วัน 3 หลัง” ศูนย์เรียนรู้ ตชด.

นายว้าก/รายงาน
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันยังมีโรงเรียนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน
บางแห่งขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน บางแห่งขาดโต๊ะ เก้าอี้ ห้องน้ำ หรือบางแห่งขาดกระทั่งอาคารเรียนต้องอาศัยร่มไม้ชายคา หรือเต็นท์ เป็นห้องเรียนและทำกิจกรรมชั่วคราว
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีกลุ่มก้อนของพลังจิตอาสาเกิดขึ้นมากมายผ่านกิจกรรมโครงการค่ายอาสาพัฒนาชนบทของเหล่าชาวปัญญาชนจากรั้วอุดมศึกษาต่างๆลงไปช่วยเหลือกันเป็นประจำ โดยหวังเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายเหล่านี้ให้กับน้องๆนักเรียน
ชมรมราชมงคลอาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติ เทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ธัญบุรีถือ เป็นอีกหนึ่งในหลายๆมหาวิทยาลัยที่จัดกิจกรรมออกค่ายมหาวิทยาลัยอาสาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้ได้กำหนดพื้นที่เพื่อสร้าง อาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติหลังที่ 47,48 และ49 ให้กับศูนย์การเรียนรู้ตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.)บ้านห้วยสลุง อ.แม่ระมาด จ.ตาก

          กิจกรรมดีๆ ที่สร้างสรรค์แบบนี้ “นายว้าก” ไม่พลาดที่จะไปถามไถ่หัวเรือใหญ่ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี ที่เล่าว่า “หลังจากที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์มายังมหาวิทยาลัยขอสนับสนุนอาคารเรียนให้กับศูนย์เรียนรู้ ตชด.บ้านห้วยสลุงเนื่องจากเปิดการเรียนการสอนเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2560 มีนักเรียน 42 คน ครู ตชด.4 คน แต่ไม่มีอาคารเรียนถาวรต้องใช้ไม้ไผ่และมุงด้วยใบตองพวงทำเป็นห้องเรียนชั่วคราว ทางมหาวิทยาลัย จึงมอบให้ ชมรมราชมงคลอาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติ มทร.ธัญบุรี ร่วมกับ นศ.มทร.ล้านนาและมทร.สุวรรณภูมิ ออกค่ายสร้างอาคารเรียนราชมงคลเฉลิมพระเกียรติหลังที่ 47,48 และ 49 โดยใช้เวลาดำเนินการ 35 วัน นอกจากนี้ มทร.ธัญบุรี ยังได้สร้างห้องเรียนอัจฉริยะ Smart Classroom และห้องเรียนมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้ด้วยและในโอกาสต่อไปยังจะร่วมสร้างห้องสมุดติดตั้งสัญญาณไวไฟ อินเตอร์เน็ตให้กับทางโรงเรียนด้วย”
มาฟังเสียงของบรรดาวัยโจ๋ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญในครั้งนี้กันบ้างเริ่มที่ “ฮอล” ฉัตรมนี วงษ์ครุฑ ปี 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ประธานชมรมราชมงคลอาสาพัฒนาเฉลิมพระเกียรติ มทร.ธัญบุรี ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจก่อนเปิดปากบอกว่า “ฮอลออกค่ายครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 มีสมาชิกค่ายจากคณะต่างๆหลากหลาย ชั้นปีเข้าร่วมออกค่ายครั้งนี้มากถึง 150 คน ดังนั้น จึงต้องมีการจัดระเบียบจัดกฎกติกาชมรมเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและเนื่องจากการต้องสร้างอาคารถึง 3 หลัง จึงกำหนดระยะเวลาในทำงาน 35 วัน เริ่มตั้งแต่ 08.00-18.00 น. และทำโอทีเพิ่มอีกตั้งแต่เวลา 20.00-02.00 น. การออกค่ายให้ประสบการณ์หลายอย่างทั้งสังคมและมิตรไมตรี รู้จักเพื่อนแต่ละคณะภูมิใจที่ครั้งหนึ่งในฐานะนักศึกษาได้ออกค่ายทำประโยชน์เพื่อสังคม”
ขณะที่ “นัท” ธนพร ผจงศิลป์วิวัฒน์ ปี 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม รองประธานค่ายและดูแลงานด้านครัวบอกว่า “นัทจะดูแลวัตถุดิบในการประกอบอาหารในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังคอยดูแลสวัสดิการในเรื่องของน้ำดื่มของสมาชิกแต่ละคน และที่สำคัญในเรื่องของความสะอาดของค่าย ตอนลงพื้นที่มาสำรวจค่ายครั้งแรกมาเห็นสถานที่รู้สึกเห็นใจน้องๆ ที่ต้องนั่งเรียนอาคารเรียนชั่วคราวมองไปทางไหนก็ไม่มีโรงเรียนจึงอยากมาสร้างโรงเรียนนี้และตั้งใจทำความดีถวายให้ในหลวง รัชกาลที่ 9”
“เต๋า” สมบัติ ทองศรีสมบูรณ์ ปี 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ดูแลงานฝ่ายปรับพื้นฐานร่างและงานทั่วไป พูดเสียงดังฟังชัดว่า “ผมมีหน้าที่ในการจ่ายงานให้กับสตาฟฟ์เพื่อแบ่งกลุ่มให้สมาชิกทำในแต่ละวัน โดยค่ายนี้เป็น ค่ายที่ 3 ที่ได้ออกมาสร้างและเป็นค่ายที่ลำบากที่สุดเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่ต้องเจอทั้งสภาพอากาศ ฝน แดด ครั้งแรกที่เห็นพื้นที่ เป็นพื้นที่ลานกว้างๆ แฉะๆ เดินแทบไม่ได้ แต่ด้วยคำว่าศรัทธาต้องทำให้ได้ และทำให้สำเร็จ ยิ่ง ตอนที่ได้เห็นอาคารเรียนสำเร็จเป็นวันที่รับรู้ได้ถึงคำว่าพลังนักศึกษา ได้เห็นน้องๆวิ่งเล่นบริเวณโรงเรียนมันคือความสุขครับ”
ต่อกันด้วยหนุ่มมาดเข้ม “บูล” ทรงพล ประดิษฐ์ ปี 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ดูแลฝ่ายโครงสร้างอาคาร ร่วมแจมว่า “รู้สึกกดดันมากเพราะด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยแถมต้องทำงานแข่งกับเวลาความสำเร็จของงานเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่ายตลอดจนชาวบ้านที่ช่วยทำงานค่ายนี้เป็นการสร้างโรงเรียนที่รู้สึกดีมาก เห็นเด็กๆชาวบ้านที่อยากได้โรงเรียนมีรอยยิ้ม ตลอดจนพี่น้องชาวค่ายที่รู้จักและไม่รู้จักช่วยกันทำงานทำความดี โดยทุกคนมาทำด้วยใจจริงๆ”
ปิดท้ายที่ “พลอยใส” สาลี่ ทับทอง ปี 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ร่วมแชร์ประสบการณ์ว่า “งานหลักที่ทำคือ งานดิน ปรับอาคาร ขุดดิน ส่งดิน ปรับพื้น งานปูน เช่น ก่ออิฐ ผสมปูน และเทพื้น ฉาบเก้าอี้ที่นั่งหน้าอาคารเรียน ปูกระเบื้องสลับกับการทำสวัสดิการและเวรครัว มาออกค่ายเพราะอยากทำประโยชน์ให้กับสังคม อยากเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยน้องๆให้มีโรงเรียนมีความพร้อมที่จะเรียนรู้มีความสุข เด็กๆเติบโต ไปมีความรู้ ศูนย์การเรียนรู้ ตชด.บ้านห้วยสลุงยังต้องการโอกาสอีกมากมายเพราะยังขาดความพร้อม อาทิ สนามเด็กเล่น ห้องสมุด ผู้สนใจติดต่อไปได้ที่ ด.ต.วิไล ธนวิภาศรี(ครูใหญ่)โทร.09-4225-9722”
เห็นคณาจารย์ และนักศึกษาชาวค่ายต่างเสียสละ ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจเพื่อน้องๆนักเรียนศูนย์การเรียนรู้ตชด.บ้านห้วยสลุงแบบนี้แล้ว “นายว้าก” ขอชื่นชมและปรบมือเป็นกำลังใจในพลังจิตอาสาที่ทุกคนต่างเสียสละทุ่มเทลงไปในครั้งนี้
นี่ถ้าคนไทยทุกคนทุ่มเทเสียสละและรู้จักการเป็นผู้ให้กันแบบนี้บ้างประเทศไทยคงจะน่าอยู่ และก้าวไกลไม่แพ้ชาติใดๆในโลก…จริงมั้ย!!!

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]