รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษามองว่ามหาวิทยาลัยควรเข้ามามีส่วนรับผิดชอบเรื่องของคุณภาพการศึกษาของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาออกไปนั้น เห็นว่าเรื่องคุณภาพสถาบันอุดมศึกษาในปัจจุบันมีเกณฑ์มาตรฐานภายในและภายนอกคอยควบคุมอยู่แล้ว ในส่วนของสภามหาวิทยาลัยก็มีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกเข้ามาช่วยดูแล และหลายมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่า รวมถึงมหาวิทยาลัยในกำกับ ก็เน้นและให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพ โดยกำหนดมาตรฐานตาม QS World University Rankings และTime Rank ซึ่งถือเป็นคุณภาพตามมาตรฐานสากล
“ทุกวันนี้มหาวิทยาลัยต่างมองไปที่อันดับโลก หรือเวิลด์ แรงก์ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเฉพาะทางที่กำหนดเกณฑ์มาตรฐานสูงกว่าอุดมศึกษาทั่วไป ส่วนมหาวิทยาลัยที่ไม่สามารถเข้าสู่มาตรฐานสากลได้ก็ต้องเดินตามกรอบมาตรฐานของอุดมศึกษา อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไม่ลืมที่จะส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยมีความเป็นอิสระในการบริหารเรื่องต่างๆ ด้วย เพราะมหาวิทยาลัยต้องไม่ใช่แค่บ่มเพาะความรู้เท่านั้น แต่ต้องบ่มเพาะอาชีพให้นักศึกษาจบไปแล้วสามารถปฏิบัติได้อย่างแท้จริง” รศ.ดร.ประเสริฐกล่าว
อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสภามหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยได้พยายามกำหนดคุณภาพของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาตามมาตรฐานสากล และยกระดับให้เป็นไปตามอัตลักษณ์ของตัวเอง โดยกลุ่มมหาวิทยาลัยที่เน้นงานวิจัย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ มหิดล เชียงใหม่ เป็นต้น มีมาตรฐานที่มหาวิทยาลัยกำหนดเอง มีสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้กำกับดูแล ดังนั้นหากองค์กรอิสระฯ เห็นว่าควรจะมีหน่วยงานใดเข้ามาควบคุมอุดมศึกษาอีก ตนมองว่าควรให้เข้ามาทำหน้าที่เพียงแค่เป็นแนวร่วมในการให้คำปรึกษาเท่านั้น เพราะหากมากกว่านั้นอาจไม่เข้าใจถึงลักษณะเฉพาะทางของมหาวิทยาลัย ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด หรือบัณฑิตได้ทำงานตรงตามวุฒิที่จบ ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ทั่วไปที่กำหนดในประเทศ เป็นเกณฑ์ของสังคม แต่ทุกวันนี้ถ้ามหาวิทยาลัยพิจารณาแค่เกณฑ์เหล่านี้ มหาวิทยาลัยก็จะไม่สามารถแข่งขันกับสากลได้ ดังนั้นนอกจากจะผลิตบัณฑิตให้สามารถทำงานได้แล้ว บัณฑิตที่จบออกไปจะต้องสามารถพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และผลักดันนวัตกรรม เพื่อเป็นกำลังให้ภาคอุตสาหกรรมในอนาคตด้วย
