แนะ มทร.ติดอาวุธทางปัญญาชุมชน

ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมระหว่าง ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ ดร.สุวิทย์ได้แนะนำให้ มทร.จะต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในพื้นที่ติดอาวุธทางปัญญาให้ชุมชนเน้นการทำงานเชิงรุก เน้นการแก้ปัญหาให้ชุมชนสนองความต้องการของคนในพื้นที่ซึ่งในส่วน มทร.ธัญบุรี ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบว่า ที่ผ่านมา มทร.ธัญบุรีได้เปิดสอนรายวิชานวัตกรรมชุมชนซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาลงพื้นที่นำความรู้ที่เรียนประยุกต์ให้ตรงกับความต้องการของชาวบ้าน ซึ่งได้รับคำชื่นชมจาก รมว.อว.อย่างมาก อย่างไรก็ตาม นอกจากรายวิชานี้แล้ว มทร.ธัญบุรี ยังมีโครงการ AreaBase นำงานวิจัยไปช่วยเหลือชุมชน เน้นจ.ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มพร้อมตั้งเป้าหมายให้ชุมชนมีรายได้ดีขึ้นรวมถึงยังมีโครงการ 84 ชุมชน โดยทุกคณะเลือก 84 ชุมชนที่ต้องการลงไปยกระดับ
ด้านผศ.ณัฐแก้ว สกุล ผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษาในฐานะผู้ประสานงานรายวิชานวัตกรรมเพื่อชุมชนกล่าวว่า รายวิชานี้เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ปี 2561 โดยยึดถือตามแนวพระราชดำริศาสตร์พระราชานำหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยเริ่มแรกได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิรากแก้ว นำอาจารย์ที่มีจิตอาสาดูงานของมูลนิธิที่มุ่งพัฒนาชาวบ้านบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้น มทร.ธัญบุรีจึงนำแนวคิดนี้มาปรับบริบทให้ตรงกับมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นนวัตกรรมจึงทำให้เกิดรายวิชานวัตกรรมเพื่อชุมชนขึ้นมา โดยของมทร.ธัญบุรีไม่เน้นเฉพาะการลงพื้นที่เพื่อดูงานแต่จะต้องลงมือปฏิบัติดำเนินการในแบบเข้าใจเข้าถึงพัฒนาจุดเด่นของรายวิชานี้จะมีนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 จากทุกคณะเข้าเรียน ทำให้ทุกคนต่างนำความรู้ที่ได้เรียนมาบูรณาการสร้างโครงงานนวัตกรรมขึ้นมา ซึ่งจากปีแรกที่เปิดมีนักศึกษาสนใจเรียน 14 คน เท่านั้น แต่ในปีนี้มีนักศึกษาลงทะเบียนเกือบ 300 คน สำหรับการเรียนการสอนนั้นจะแบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อศึกษาเก็บข้อมูลความต้องการของชุมชนนั้นๆ นำมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดการสร้างผลิตภัณฑ์หรือสิ่งประดิษฐ์หลังจากนั้นจะมีการโชว์ผลงานให้กับชาวบ้านและผู้นำชุมชนที่นักศึกษาลงพื้นที่ให้ข้อเสนอแนะ และต่อยอดงานนั้นๆ ส่วนใหญ่นวัตกรรมที่ได้จะเป็นการลดของเสียในกระบวนการผลิตของชาวบ้านและเกษตรกรหรือการเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบที่มีอยู่ในพื้นถิ่นที่ผ่านมา มีโครงงานที่สัมฤทธิผลแล้ว9โครงงาน.

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]