
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
พงษ์พรรณ บุญเลิศ
ฤดูฝน นอกจากความชุ่มฉ่ำของสายฝนที่ช่วยลดคลายอุณหภูมิ ความร้อนอบอ้าวของอากาศ น้ำจากฟ้ายังเติมความสมบูรณ์ให้กับพืชผักผลไม้งอกงาม.
ช่วงรอยต่อของฤดูกาลซึ่งเปลี่ยนจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน ช่วงเวลานี้มีผักผลไม้หลากหลายชนิดให้ผลผลิตต้อนรับฤดูกาลใหม่ มีทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด ฯลฯ ผลไม้ที่ได้รับความนิยม ทั้งให้ความสดชื่นและมากด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ อ.พทป.แสงนภา ทองสา ประธานหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์ วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้ความรู้การดูแลสุขภาพช่วงฤดูฝน ให้มุมมองการทานผักผลไม้ พาสัมผัสประโยชน์จากผลไม้ว่า ฤดูฝนหรือช่วงที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน จะมีความแปรปรวนของอากาศ มีความเปลี่ยนแปลงทั้งความชื้น และบางวันอาจมีแดดแรงอากาศอบอ้าวซึ่งส่งผลต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะเรื่องของธาตุลม ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ
เกิดอาการต่าง ๆ ทางลมมากขึ้น มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดเมื่อย ครั่นเนื้อครั่นตัว เวียนศีรษะ มีอาการหวัด ไอ ฯลฯ เกิดได้ง่าย ยิ่งผู้ที่มีธาตุลมเป็นธาตุเจ้าเรือน รวมถึงผู้สูงอายุ อีกทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยง่ายขึ้นในช่วงฤดูกาลนี้
การดูแลสุขภาพปรับสมดุลร่างกายด้วยอาหาร กินผักผลไม้ที่มีประโยชน์ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ สร้างความแข็งแรง เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝน ทั้งนี้ประธานหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คุณหมอแสงนภา ขยายความเพิ่มว่า สภาพอากาศในช่วงฤดูฝนจะมีความเย็นความชื้น ศาสตร์การแพทย์แผนไทยแนะนำการกินอาหารรสเผ็ดร้อน อย่างเช่นอาหารที่มีส่วนผสมปรุงด้วย ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย กะเพรา แมงลัก โหระพา หรือขมิ้น ฯลฯ ผักสมุนไพรใกล้ตัวที่ช่วยสร้างเสริมสุขภาพ
“ผักที่ให้รสเผ็ดร้อนมีอยู่หลายชนิด ทั้งยังนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะนำมาทำอาหารประเภทผัด ต้ม หรือนำมาเป็นเครื่องยำ นำมาใส่ในแกง หรืออาจปรุงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร อย่างเช่นน้ำตะไคร้ ซึ่งให้ความหอม ความสดชื่นได้ดี ผักรสเผ็ดร้อนที่มีในฤดูกาลช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี เมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอกที่มีความเย็นชื้นก็จะช่วยปรับสร้างสมดุล เพิ่มภูมิคุ้มกัน”
ในส่วน ผลไม้ ช่วงฤดูกาลนี้มีผลผลิตออกมาให้เลือกลิ้มรสชาติมากมายเช่นกัน แต่ละชนิดอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้ช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝนที่เริ่มเด่นชัดขึ้นจากนี้ ผลไม้เด่นที่ให้ผลผลิตในเวลานี้ ที่ต้องกล่าวถึง ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ตามมาด้วย มังคุด ระกำ ยังมี มะม่วง มะละกอ ส้มโอ และพอถึงช่วงปลายฤดูฝนมี ลำไย น้อยหน่า ฯลฯ จากที่กล่าวผลไม้มีสารอาหารที่มีประโยชน์ แต่อย่างไรแล้วผลไม้มีน้ำตาล ต้องระมัดระวัง เลือกทานให้พอเหมาะพอดี โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างเบาหวาน ต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป
อ.พทป.แสงนภา ให้ความรู้กล่าวถึงสารอาหารที่มีประโยชน์ในผลไม้อย่างเช่น ทุเรียน นอกจากความโดดเด่นของรสชาติ ผลไม้ชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และแร่ธาตุ อย่างเช่น แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ฯลฯ โดยแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างกระดูก ฟัน ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด ฯลฯ เนื้อทุเรียนให้พลังงานสูงซึ่งต้องเลือกนำมาบริโภคให้เหมาะสม โดยถ้าทานเพลิน อาจทำให้เกิดอาการร้อนใน อึดอัด ไม่สบายตัว
เงาะ ผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบเช่นกัน เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยสารอาหาร มีวิตามินซี โปรตีน ไขมัน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โดยส่วนนี้จะช่วยเสริมสร้างเรื่องกระดูก ฟัน การทำงานของกล้ามเนื้อ และด้วยรสผลไม้ที่มีความหวานซึ่งให้ความสดชื่น ก็ต้องไม่เพลิน มีความพอเหมาะพอดีในการรับประทาน
ผลไม้อีกชนิดที่คู่กันมากับทุเรียนคือ มังคุด ซึ่งให้ผลผลิตในช่วงฤดูเดียวกัน มังคุดช่วยลดความร้อนในร่างกายได้ โดยเนื้อมังคุดมีฤทธิ์เย็น ช่วยลดอาการร้อนใน ช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิในร่างกายจะเพิ่มขึ้น การทานผลไม้ชนิดนี้นอกจากให้ความสดชื่นยังช่วยให้ร่างกายเย็นลง
“เนื้อมังคุดจะมีเส้นใย มีสารอาหารหลายชนิดทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามิน บี1 บี2 ฯลฯ โดยวิตามินบี ช่วยลดอาการชา ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ผลไม้ การสร้างเสริมสุขภาพแข็งแรง สร้างความสมดุล ยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งการทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอ”
สำหรับ ระกำ ผลไม้ชนิดนี้มีวิตามินซีโดดเด่น รสเปรี้ยวจากระกำยังมีสรรพคุณทางยา ให้ความชุ่มคอ บรรเทาการกระหายน้ำ แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยลดอาการหวัด ที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีผลไม้อีกหลายชนิดที่มีมากในช่วงรอยต่อของฤดู และให้ผลผลิตในฤดูอื่นด้วยอย่างเช่น สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ โดย สับปะรด เป็นผลไม้ที่มีเส้นใยอยู่มาก อุดมด้วยวิตามินโดยเฉพาะวิตามินซี
ส่วนอีกชนิด กระท้อน โดยช่วงเวลานี้จะได้ชิมรสชาติ ได้รับสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงเช่นกัน มีเส้นใยมาก ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ส่วนผลไม้ที่ให้ผลผลิตในช่วงฤดูฝนและต่อเนื่องไปในฤดูกาลอื่น ทานได้ตลอดปี อย่างเช่น กล้วยหอม ซึ่งมากด้วยสารอาหารมี โพแทสเซียม ช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อ กระดูก ระบบไหลเวียนของเลือด ฯลฯ ขณะที่ มะละกอ มีวิตามินและกากใยสูง เป็นผลไม้ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย
จากที่กล่าวแต่ละฤดูกาลมีผักผลไม้ให้ผลผลิตต้อนรับฤดูกาลใหม่ คุณหมอแสงนภา ให้มุมมองการทานผักผลไม้เพิ่มอีกว่า ผักที่มีในฤดูกาลนอกจากจะทำให้เลือกหานำมาปรุงอาหารได้สะดวก กว่าผักที่ไม่มีในฤดู ถ้ามองในด้านราคาก็ไม่สูง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ได้ทานของที่มีในธรรมชาติ ทั้งได้นำมาประยุกต์ใช้ดูแลสุขภาพ
“ช่วงฤดูฝนแนะนำผักที่มีรสเผ็ดร้อนซึ่งเป็นผักสมุนไพรใกล้ตัว ผักคู่ครัวหาได้ง่าย อย่างเช่น กะเพรา นอกจากนำมาปรุงเป็นอาหารจานเด่น เพราะได้รับความนิยม ทำง่ายโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้าน ทำงานกันที่บ้าน ยังนำมาปรุงประกอบอาหารได้อีกหลายเมนู
กระชาย ก็มีรสกลิ่นที่โดดเด่น นำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเช่นกัน อย่างเช่น ผัดฉ่าใส่กระชาย ใส่ใบมะกรูด ซึ่งให้ทั้งความหอม ความเผ็ดร้อนเสริมรสอาหาร ขิง ข่า พริกไทย ก็เช่นกัน ให้ความเผ็ดร้อนเฉพาะตัว ทั้งนำมาปรุงอาหารได้หลายเมนู ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นเสริมภูมิคุ้มกัน และนอกจากปรุงประกอบอาหารพืชผักที่ให้รสเผ็ดร้อนยังนำมาทำเป็นเครื่องดื่มได้อีกหลากหลาย
แต่ทั้งนี้นอกจากผักผลไม้ที่กล่าวมา ประธานหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คุณหมอแสงนภา ให้คำแนะนำทิ้งท้ายอีกว่า การดูแลสุขภาพการรับประทานอาหารควรครบห้าหมู่และมีความหลากหลาย โดยช่วงเวลานี้อาจเน้นผักที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพในช่วงฤดูฝน ไม่กินแต่เมนูใดเมนูหนึ่ง เช่นเดียวกับผลไม้ ควรให้มีความหลากหลายเช่นกัน
ขณะเดียวกันต้องไม่ละเลยให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและการพักผ่อนที่เพียงพอ โดยเฉพาะช่วงเวลาและช่วงฤดูฝนอากาศชื้น ควรหลีกเลี่ยงการตากฝน การถูกละอองฝน หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น ควรรักษาร่างกายให้อบอุ่น ดูแลสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
เตรียมความพร้อมนับแต่เบื้องต้น เป็นการป้องกันที่คุ้มค่าที่จะช่วยห่างไกลจากความเจ็บป่วย.
“สร้างความแข็งแรงเสริมภูมิคุ้มกัน”