‘สมหมาย’ กางแผน ช่วงวิกฤติโควิด ย้ำ มทร.ธัญบุรีช่วยนักศึกษา-สังคมต่อเนื่อง

สยามรัฐ ฉบับวันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2564
อธิการบดี มทร.ธัญบุรี ปรับแผนงาน ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย ในช่วงวิกฤติโควิด-19 เน้นภารกิจช่วยเหลือนักศึกษาและสังคม ควบคู่การผลิตกำลังคนสู่นักนวัตกร
ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่าน มทร.ธัญบุรี ได้ปรับและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานอย่างต่อเนื่องในหลายภารกิจ โดยมุ่งเน้นออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งช่วงแรกยอมรับว่าเกิดปัญหาอยู่บ้าง แต่ช่วงหลังรวมถึงล่าสุดเราปรับตัวและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ บนพื้นฐานของความปกติใหม่ หรือ New Normal เนื่องจากเรามีระบบการบริหารจัดการด้านสารสนเทศและไอทีมาสนับสนุนหลายด้าน
ขณะเดียวกัน มทร.ธัญบุรี ยังสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ภายในโรงยิมเนเซียมของมหาวิทยาลัย รองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว เพราะอาคารอยู่แยกจากอาคารเรียน มีพื้นที่กว้างขวางหลังคามีความสูง สามารถระบายอากาศได้ดี โดยไม่ส่งผลกระทบต่อนักศึกษา เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน บุคลากรของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านแทน และได้รับประกาศเกียรติคุณจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เป็นหน่วยงานผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมด้านการบริการประชาชนโดยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าวนับว่าเป็นอีกบทบาทหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชน สังคมและชุมชนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นี้
มหาวิทยาลัยยังได้สำรวจความต้องการของนักศึกษา 25,000 คน โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจ กว่า 16,000 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ของจำนวนนักศึกษา พบว่า ต้องการให้ มทร.ธัญบุรี ช่วยเหลือในการลดค่าเล่าเรียนดังนั้น ผู้บริหารเห็นตรงกันที่จะให้มีการลดค่าเล่าเรียนของภาคฤดูร้อนและภาคเรียนที่ 1/2564 นี้ลง 10% ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 44 ล้านบาท โดยนักศึกษาที่จ่ายค่าเล่าเรียนภาคฤดูร้อนแล้วสามารถติดต่อขอรับเงินคืนได้ที่สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มทร.ธัญบุรีรวมถึงยังคงจัดสรรทุนการศึกษาแบบให้เปล่ากับนักศึกษาอีกเช่นเดิม คือ 30 ล้านบาทให้กับนักศึกษาที่ยากจนและขาดแคลน ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2563 เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักศึกษาและผู้ปกครอง
อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวอีกว่า ล่าสุดตนได้รับการคัดเลือก เป็นประธานคณะกรรมการอธิการบดี มทร. 9 แห่ง โดยทางกระทรวงอว.มีนโยบายที่ต้องการประสานงานกับกลุ่มมหาวิทยาลัย เบื้องต้นนี้มีแนวคิดที่จะประสานในเรื่องของงบประมาณให้เกิดการดำเนินการร่วมกันในกลุ่มของ 9 มทร. และเตรียมเสนอจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เช่นโครงการสร้างทักษะให้บัณฑิตที่มุ่งตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ ผลิตกำลังคนเพื่อให้สามารถทำงานภาคอุตสาหกรรมในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่ละปีจะผลิตบัณฑิตมากกว่า 35,000 คนถือเป็นบัณฑิตที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเป็นนักนวัตกรได้ดี เพราะมีพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถช่วยพัฒนาประเทศได้

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]