
สยามรัฐ ฉบับวันที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2564
‘จุรินทร์’ลุยสร้างแม่ทัพเศรษฐกิจรุ่นใหม่ให้ประเทศ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขสะท้อนชัดว่า Gen Z (ประชากรช่วงวัยอายุ 9-24 ปี โดยฐานข้อมูลอ้างอิงสำนักงานสถิติแห่งชาติ)ทั่วทั้งประเทศมีกว่า 13 ล้านคน จากประชากรไทยทั้งประเทศ 60-70 ล้านคนเรามีถึง 13 ล้านคน ถือว่ามีสัดส่วนเชิงปริมาณที่มีความสำคัญและในเชิงคุณภาพยิ่งมีความสำคัญเพราะพวกเราทุกคนจะเติบโตไปเป็นอนาคตของประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมืองสังคมและทุกๆ ด้านต่อไปในอนาคตกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ Gen Z ที่จะต้องเติบโตไปเป็นแม่ทัพทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต โครงการ From Gen Z to be CEO ของกระทรวงพาณิชย์ที่ตนเป็นผู้รับผิดชอบจึงเกิดขึ้น หรือเรียกว่าโครงการปั้น Gen Z เป็น CEO
โดยโครงการนี้เกิดขึ้นเพราะเราเดาใจออกว่าพวกเราจำนวนไม่น้อยต้องการเติบโตไปเป็นส่วนหนึ่งของภาคส่วนทางเศรษฐกิจของประเทศโดยตั้งฝันอนาคตไว้ว่าเมื่อมีโอกาสเรียนจบแล้วจะโตไปเป็นนายของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการไปเป็นนายของตัวเองประกอบธุรกิจของตนเองและมีตัวเองเป็นเจ้าของที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2564 กระทรวงพาณิชย์จะปั้น Gen Z ให้เป็น CEO ได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 คน แต่ปรากฏว่าจนถึงนาทีนี้มี Gen Z สมัครเข้ามาแล้วถึง20,000 คน สูงกว่าเป้าถึง 8,000 คนอบรมไปแล้วไม่รวมวันนี้ 14,000 คนและวันนี้อีก 1,500 คน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง
“ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าเราสามารถสนองความต้องการของ Gen Z ได้ทั้งหมด 20,000 คน จากเป้าหมาย 12,000 คน และที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ มีหลักสูตรเพิ่มทักษะศักยภาพให้กับผู้ประกอบการอีกหลายรุ่นรวมกันทั่วทั้งประเทศด้วยหลายหลักสูตรด้วยกัน โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่(NEA) ทำมาแล้วในช่วงที่ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการถึง 67,000 คน รวม Gen Z ที่อบรมไปแล้วจนถึงวันนี้อีก 16,000 คน รวมสามารถดำเนินการไปแล้วถึง83,000 คน”
โดยน้องๆ ที่เข้ามาอบรมทั้งหมดจะได้เรียนรู้ในหลักสูตรสำคัญ เช่น อีคอมเมิร์ซซึ่งจะเป็นอนาคตของระบบการค้าโลกจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคตมากยิ่งขึ้นเพราะกฎเกณฑ์ทั้งหลายในFTA และหลายข้อตกลงทางการค้าในระบบพหุภาคีทั้ง ASEAN และ RCEP ล้วนให้ความสำคัญกับอีคอมเมิร์ซทั้งสิ้นหลักสูตรเรื่องโลจิสติกส์ ยุคใหม่ไม่เหมือนยุคก่อน เพราะเป็นโลจิสติกส์ในระบบอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยีการบริหารจัดการยุคใหม่ การบริหารในระบบดิจิทัลการใช้ 5G ในการทำธุรกิจการค้า การใช้ระบบคลาวด์เซอร์วิสหรือระบบบัญชีดิจิทัลและการบริหารจัดการระบบตลาดออนไลน์การส่งออกเบื้องต้น ภาษาอังกฤษเพื่อเจรจาทางการค้า เป็นต้น เมื่ออบรมแล้วได้คะแนนผ่านเกณฑ์ครบ 500 คนจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้อบรมกับบริษัททรูคอร์ปอเรชั่น และ Bitkub ผู้ที่ได้ TOP 100 คนแรก จะได้มีโอกาสฝึกงานกับบริษัทใหญ่ เช่น ทรู หัวเว่ย และเอ็กซิมแบงก์ รวมทั้งโอกาสทำงานร่วมกันฝึกอบรมร่วมกับสำนักงานทูตพาณิชย์ไทยด้วยเพื่อเรียนรู้การค้าในต่างประเทศ