ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 31 ส.ค. 2565
มินนี่เมาธ์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคกล้าจัดงาน “กล้าเฟส : สุขอุราไทย”
เชิญผู้เชี่ยวชาญ คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มานั่งพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสุราพื้นบ้าน คราฟต์เบียร์ ทั้งในแง่กฎหมายที่กีดกันการผลิต การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การตลาด
เรื่องนี้หลายพรรคการเมืองตื่นตัว เล็งเห็นว่าจะเป็นช่องทางการหารายได้ให้กับประชาชนได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ถึงขนาดผลักดันร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. …. หรือที่รู้จักในนาม พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เข้าสู่สภา ซึ่งที่ประชุมสภาก็ได้รับหลักการร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ โดยมีอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะ กมธ.
เวลาเดียวกัน “พรรคกล้า” ก็จัดงานขึ้นโดยมุ่งหวังที่จะเดินหน้านโยบายแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นสินค้าพรีเมียม ขยายโอกาสให้เกษตรกร เพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันท่องเที่ยว ภายในงานมีผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน คนทำคนขายสุรา ไวน์ เบียร์ นักวิชาการ นักการตลาด ส.ส. เข้าร่วม
“อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” เลขาธิการพรรคกล้า บอกว่า “ตอนนี้กติกาไม่เป็นธรรมทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค อย่างเช่น ห้ามขายสุรา 14.00-17.00 น. ด้วยเหตุผลเก่าแก่ในปี 2515 ว่ากลัวข้าราชการเมาแล้วไม่ทำงาน ทั้งที่ไทยเป็นประเทศท่องเที่ยว และแม้รัฐบาลอนุญาตให้วิสาหกิจชุมชนผลิตเหล้าขายได้ แต่กลับห้ามขายผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้ผลิตไม่สามารถบอกว่าสิ่งที่อยู่ในขวดคืออะไร เป็น จิน วอดก้า หรือรัม จึงต้องใช้ความกล้าหาญ นำทฤษฎีไม้เสียบลูกชิ้น ทะลุทุกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ทะลุปัญหาต่างๆ เหล่านี้ไปด้วยกัน”
นอกรอบยังมีโอกาสได้เสวนากับ “อาจารย์เจริญ เจริญชัย” อ.คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ถึงเมื่อครั้งที่พิจารณาร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าในสภา แล้วตัวแทนกรมสรรพสามิตมีการพูดว่ากรมฯ ได้ปรับปรุงกฎกระทรวง ซึ่งแน่นอนว่าจะยกเลิกทุนจดทะเบียน และทบทวนกำลังการผลิตให้เหมาะสมกับการควบคุม โดยจะใช้เวลาในการปรับปรุงภายใน 3 เดือน และจะเสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้บังคับใช้โดยเร็ว
“อ.เจริญ” กล่าวว่า ถ้าแก้ไขได้ก็จะเป็นการดี และทิ้งท้ายว่า นี่ก็อีกไม่กี่วันก็จะครบ 3 เดือนที่เขาว่าไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.