อาจารย์ มทร.ธัญบุรี นำเศษไม้ไผ่เหลือใช้มาเป็นวัสดุในการประดิษฐ์โคมไฟ ชูจุดเด่นเรื่องความคงทนแข็งแรงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“ไม้ไผ่” มีประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคครัวเรือน ภาคการเกษตร รวมถึงภาคอุตสาหกรรม จากการใช้งานไม้ไผ่มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มักจะมีเศษไม้ไผ่เหลือทิ้งจำนวนมาก ส่วนใหญ่มักจะทำลายเศษเหล่านั้นทิ้งด้วยการเผาทำลาย ซึ่งก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
นายอนินท์ มีมนต์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) จึงมีแนวคิดที่จะแก้ปัญหาเศษไม้ไผ่เหลือทิ้งดังกล่าว โดยนำมาแปรรูปผลิตเป็นกระดาษและพัฒนากระดาษให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยผสมเส้นใยพลาสติกชนิดย่อยสลายได้ เพื่อใช้สร้างโคมไฟกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ประดับตกแต่งในช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษต่างๆ
“เส้นใยที่ได้จากเยื่อไม้ไผ่จะมีลักษณะเส้นใยยาว เมื่อนำไปปรับสภาพด้วยโซดาไฟจะทำให้เส้นใยมีความอ่อนนุ่ม เมื่อนำไปผ่านกระบวนการตีเยื่อและกระจายเยื่อทำให้เส้นใยมีขนาดสั้นและเล็กลง สามารถนำมาขึ้นรูปเป็นกระดาษจากเยื่อไม้ไผ่ได้ แต่กระดาษนั้นจะมีความแข็งแรงต่ำ จึงได้วิจัยและพัฒนาสมบัติของกระดาษให้ความแข็งแรงยิ่งขึ้น โดยนำเส้นใยพลาสติกพอลิแลคติคแอซิด หรือพีแอลเอ ซึ่งเป็นชนิดของพลาสติกย่อยสลายได้ มาผสมกับเยื่อไม้ไผ่ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวประสานให้เยื่อไม้ไผ่มีการเกาะยึดกันดีขึ้น ทำให้กระดาษมีความแข็งแรง รวมถึงเพิ่มเทคนิคสุญญากาศเข้าไปช่วยหลังจากผ่านขั้นตอนการช้อนเยื่อด้วยตะแกรง ช่วยให้เส้นใยมีการเกาะตัวดีขึ้น และใช้กระบวนการอัดขึ้นรูปร้อน ทำให้เส้นใยพีแอลเอเกิดการหลอมละลาย ส่งผลให้กระดาษจากเยื่อไม้ไผ่ผสมพลาสติกมีความแข็งแรงและราบเรียบมากยิ่งขึ้น” นายอนินท์อธิบาย
ด้วยคุณสมบัติของกระดาษที่โดดเด่นในเรื่องความแข็งแรง นอกจากนำมาสร้างเป็นโคมไฟกระดาษแล้ว ยังสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบอื่นได้ด้วย นับเป็นการสร้างองค์ความรู้ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นออกมาเป็นนวัตกรรมที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ นำเอาวัตถุดิบเหลือทิ้งในท้องถิ่นมาแปรรูปผลิตเป็นสินค้าที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม และถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรในระดับชุมชนและกลุ่มธุรกิจ ขณะนี้ผลงานอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการจดสิทธิบัตรและต่อยอดเชิงพาณิชย์ต่อไป