“ช่วงชีวิตของการหลงมัวเมาไปกับแสง สี เสียง สังคมพาผมเข้าไป จนไม่เข้าเรียน ปล่อยทุกสิ่ง เงินที่ได้มา ผมคิดว่ามันเพียงพอกับการใช้ชีวิตของผม แต่แล้วผมก็คิดผิด มันทำให้ผมต้องโดนรีไทร์ออกจากการเรียน ด้วยความแน่นอนกลายเป็นความไม่แน่นอน”คำบอกกล่าวของ “น้องปาล์ม” นายนัธทวัฒน์ หาญโสตนักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์
คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี หนุ่มสู้ชีวิตทำงานทุกอย่าง เพื่อหารายได้ส่งตนเองเรียน เพื่ออนาคตที่ได้วางแผนไว้
ปาล์ม เล่าว่า เป็นลูกคนโต มีน้องสาว 1 คน พ่อรับราชการตำรวจ (เสียชีวิตตั้งแต่อายุ 8 ขวบ) ปัจจุบันคุณแม่ป่วยเป็นก้อนเนื้อในมดลูก ไม่สามารถทำงานได้ (เนื่องจากผ่าตัด) น้องสาวสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 (รอเรียกตัวนายสิบตำรวจเข้าทำงาน) ตนเองสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนหนองเสือวิทยาคม สายวิทย์-คณิต จึงสอบตรงเข้าศึกษาสาขาวิชา วิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.ธัญบุรี ได้วางแผนชีวิตและมองว่าเป็นสาขาวิชาที่ใหม่ โดย มทร.ธัญบุรี เป็นแห่งที่ 4 ที่เปิดสอน จึงสนใจและเข้าศึกษาในสาขานี้
“ช่วงที่เรียน แม่ยังทำงานเป็นเซลส์ขายของ มีรายได้มาส่งบ้านเช่า และส่งผมเรียน ตอนนั้นผมใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป ตื่นเช้าไปเรียน มีเวลาว่างได้ไปเที่ยวและทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ อีกทั้งช่วงชีวิตนั้น ผมได้รับรางวัลเดือนคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 RMUTT FRESHY BOY 2014″
ชีวิต “ปาล์ม” เริ่มพลิกผัน เมื่อเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 แม่ป่วยและต้องเข้ารับการผ่าตัดก้อนเนื้อที่มดลูก ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ “ปาล์ม” ต้องหางานพิเศษทำ ซึ่งตอนนั้นทำงานอยู่ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งพนักงานต้อนรับของร้าน โดยได้รับเงินตอบแทนเดือนละ 1.5 หมื่นบาท
“สำหรับชีวิตของวัยรุ่น เห็นว่าเงินจำนวน 1.5 หมื่นบาท เป็นเงินจำนวนมาก มีเงินเดือนสูงขนาดนี้ ไม่ต้องเรียนดีกว่า และที่สำคัญผมทำงานกลางคืน ตื่นเช้าไปเรียนไม่ไหว จึงตัดสินใจไม่ไปเรียน จนผมโดนรีไทร์ จึงออกจากการเรียนมาทำงานจริงจัง ไม่เรียนต่อ “ความแน่นอนบนความไม่แน่นอน” มีกฎหมายเกี่ยวกับสถานบันเทิงออกมา ทำให้สถานบันเทิงดังกล่าวปิดตัวลง ผมตกงานไม่มีงานทำ ตอนนั้นทำให้ผมคิดถึงการเรียน อยากกลับมาเรียน อย่างน้อยถ้าเรียนมีวิชาติดตัว สามารถหางานอย่างอื่นทำได้ จึงตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในสาขาวิชาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มทร.ธัญบุรี อีกครั้ง” ปาล์ม ย้อนอดีต
ปาล์ม เล่าว่า ปัญหาที่ตามมาคือค่าเทอม แม่ไม่สามารถทำงานได้ ต้องหาค่าเทอมเอง จึงหางานทำเพื่อหาเงินมาส่งตัวเองเรียน และหาเงินค่าบ้านเช่าช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน โดยมีเพื่อนแนะนำให้ไปขับรถวินมอเตอร์ไซค์ เพราะว่าเป็นงานที่มีรายได้ดี และสามารถทำงานตอนไหนก็ได้ จึงตัดสินใจออกมอเตอร์ไซค์มาขับวิน และขับมาเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วย จะขับวินหลังเลิกเรียนจนถึง 22.00 น. และช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน ส่วนวันพุธ วันพฤหัสบดี วันเสาร์ วันอาทิตย์ จะไปทำงานดูแลเครื่องเล่นที่ดรีมเวิลด์ ได้ 280 บาทต่อวัน ตั้งแต่ 09.00p17.00 น. และส่งขนมบราวนี่ที่รับมาโดยรับมาถาดละ 700 บาท นำมาขายใส่กล่อง กล่องเล็ก 30 บาท กล่องใหญ่ 50 บาท รับออเดอร์ในเฟซบุ๊ก
“ปาล์ม” บอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา เพื่อนๆ ที่รู้จักกัน และทุกวันอังคาร-พุธ-พฤหัสบดี ตอนเย็นมีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดนัดมหาวิทยาลัย Rmutt walking street เมื่อมีเวลาว่างจะรับงานพิเศษต่างๆ ที่มีรายได้ เช่น การเดินแบบ เพราะว่าเคยรับงานเดินแบบตามงานต่างๆ มีประสบการณ์ทางด้านนี้ สำหรับรายได้ที่ได้มาทั้งหมดต้องแบ่งใช้จ่าย จ่ายค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท ผ่อนมอเตอร์ไซค์เดือนละ 2,600 บาท ส่วนที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่ายในการเรียน
“ชีวิตของผมเปลี่ยนไป เคยโทษเรื่องโชคชะตา ทำไมต้องเป็นแบบนี้ แต่ที่สุดผมว่าเกิดจากการ กระทำของผม อย่างน้อยก็สอนอะไรผมหลายๆ อย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความแน่นอน ฉะนั้นไม่ควรประมาทในโชคชะตา แต่อย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นที่ตัวของเราเอง”
ชีวิตที่เปลี่ยนไป ให้บทเรียนอะไรหลายอย่างในชีวิต มุมมองที่ไม่เคยเข้าใจ ความคิดความอ่านของแต่ละบุคคล ซึ่งเคยมองชีวิตของคนขับวินมอเตอร์ไซค์ ชีวิตพ่อค้า ว่าต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น แต่เมื่อได้สัมผัสทุกอาชีพ ทุกอาชีพที่ทำสุจริต บางคนที่มาขับวินมีงานประจำ แต่มาขับวินเพื่อหารายได้เสริม ทำให้คิดได้ว่า เกิดเป็นคนแล้วต้องสู้
“อดีตผมเคยมีเงิน ใช้เงินไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ทุกวันนี้เงินที่ได้ต้องเก็บ ต้องใช้อย่างประหยัด” เห็นเพื่อนๆ มีเงินใช้อย่างฟุ่มเฟือย มีมือถือ มีรถบิ๊กไบค์ขับ
รู้สึกน้อยใจ แต่ด้วยที่ทุกคนเกิดมาแล้วมีความต่างกัน
เพียงยอมรับความจริงยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น “ซึ่งบางครั้งเงินจะกินข้าวยังไม่มี” ต้องหยิบยืมเพื่อนเป็นบางครั้ง แต่ที่สุดแล้วถ้าไม่จำเป็นจะไม่ยืมเพื่อน จะพยายามหาเงินและเก็บเงินไว้ใช้ยามจำเป็น ตอนนี้ต้องจ่ายค่าเทอม จึงจะขอทุนเพื่อการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ในขั้นของการดำเนินการ ทุกวันนี้เมื่อไรที่ผมท้อผมจะคิดถึงพ่อ และจะคิดเสมอต้องทำให้แม่สบายให้ได้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของนักศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งดูภายนอกไม่มีใครรู้เลยว่า รอยยิ้มบนใบหน้า แต่ข้างในอาจจะไม่ยิ้มหรือมีความสุข อย่างไรก็ตามน้องปาล์มยังบอกเสมอว่าจะตั้งใจเรียน เพื่อตามความฝันเป้าหมายที่ได้วางไว้ เพื่อแม่และน้องสาวของเขา
ชลธิชา ศรีอุบล เรื่อง/ภาพ
กองประชาสัมพันธ์ มทร.ธัญบุรี