สื่อการสอนที่ดีที่สุด คือ จิตวิญญาณความเป็นครู ในอดีต รูปแบบการคิดของครูมุ่งเน้นและมุ่งสร้างในการจัดซื้อและหาเครื่องมือการสอนที่มีประสิทธิภาพ จนลืมมองและสอดส่องต้นน้ำที่อยู่ใกล้ตัวมากที่สุดนั่นคือ “กระบวนการคิด” ที่ต้องบ่มเพาะการฝึกอบรมและเรียนรู้จากเวทีการพัฒนาตนในระดับสากล ซึ่งเป็นแนวทางการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับภาคการศึกษาของประเทศไทย โดยไม่ได้โฟกัสเพียงกระดาษหนึ่งใบแต่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงระหว่างครู นักศึกษา ภาคอุตสาหกรรม บูรณาการร่วมกันในการเรียนรู้ที่ต้องเข้าใจจริง แก้ปัญหาเป็น ปฏิบัติได้ และนี่คือสารบัญบทแรกทางความคิดที่มาพร้อมกับปณิธานอันมุ่งมั่นในการปฏิรูปมหาวิทยาลัยในทุกกระบวนการให้เกิดความร่วมมือทุกภาคส่วน เป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทยในอนาคตให้เกิดความยั่งยืน รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี)เป็นการเรียนรู้ที่บูรณาการการศึกษาทางด้านวิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตั้งแต่ระดับขั้นการศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายส่งเสริมให้นักศึกษามีองค์ความรู้และทักษะการเรียนรู้ทางสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ๆ ในแบบที่สองคือการเชื่อมโยงสู่การนำเอาระบบ CDIO จากประเทศสิงคโปร์มาประยุกต์ใช้ ผลจากความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Singapore Polytechnic ปีนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งได้ขยายผลผ่านการฝึกอบรมคุณครูและอาจารย์ในทุกแขนงสาขากว่า 280 คน ใน 8 ราชมงคล
สำหรับความโดดเด่นของ CDIO นั้น อธิการบดี ขยายความอย่างละเอียดว่า C คือ Conceive การหาปัญหา D คือ Design การออกแบบและทำคิดค้นวิธีการสอนรูปแบบใหม่ I คือ Implement การหาแนวทางที่ดี และ O คือ Operate การจัดการและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งระบบดังกล่าวได้สรรค์สร้างโอกาสและตกผลึกแนวคิดให้กับอาจารย์สู่การปรับเปลี่ยนเทคนิคนำเสนอองค์ความรู้รูปแบบใหม่ จากนั้นในแบบที่สาม เราต่อยอดการสร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาการเรียนการสอนควบคู่ไปกับ Finland University ด้วยการส่งคณาจารย์ไปฝึกอบรมจำนวน 120 คน และนำเอาความรู้ที่ได้มาต่อยอดทางวิชาการ วัฒนธรรม และกระบวนการคิดกับอาจารย์รุ่นต่อๆ ไปในรูปแบบของโครงการ “ครูต้นแบบ” สะพานเชื่อมที่สำคัญในการปฏิรูปการศึกษาแบบองค์รวมของมหาวิทยาลัย
และแบบที่สี่อยู่ระหว่างการดำเนินการกับโครงการไทย-เยอรมัน Meister ภายใต้ความร่วมมือกับ Aachen University of Technology เพื่ออบรมคณาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มากกว่า 16 ท่าน ในการฝึกอบรมและเก็บเกี่ยวความรู้กลับมาสู่มหาวิทยาลัยในรูปแบบครูต้นแบบต่อไป การปฏิรูปทั้งสี่แนวทางที่ มทร.ธัญบุรี มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญโดยเฉพาะในเรื่องของกระบวนการคิดสำหรับคุณครู การบูรณาการร่วมกันด้านการศึกษา และที่สำคัญคือการผสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ดีนอกจากการปฏิรูปวิธีการสอน ในมิติของหลักสูตรเรามุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบใหม่อยู่เสมอในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้การผลิตนักศึกษาสอดรับกับภาคอุตสาหกรรม ซึ่งภาพที่เห็นได้ชัดคือการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ SMEs Turn Around กับทาง สสว. ในการลงมือปฏิบัติจริงนับตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหาและที่มาของความผิดพลาดในการดำเนินธุรกิจพร้อมกับแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจารย์ผู้สอนได้เทคนิคการสอนใหม่ๆ นักศึกษาได้ลงพื้นที่เรียนรู้จริงๆ และภาคธุรกิจ SMEs เกิ ดการฟื้นตัวและกลับมาเป็นกำลังหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ เผยต่ออีกว่า การร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นเส้นทางที่สำคัญในการนำพาบัณฑิตของเราไปเติมเต็มทุกภาคธุรกิจ โดยขั้นตอนการบ่มเพาะนอกจากการปฏิบัติจริง เราเปิดโอกาสหรือสร้างเวทีให้อาจารย์และนักศึกษาได้ผลิตและคิดค้นผลงานหรือสิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอยู่เสมอ เพราะเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในอนาคตให้เติบโตต่อไปในระบบห่วงโซ่อาหารที่สมบูรณ์
ผมรักและศรัทธาในการให้ ซึ่งการมาบริหารงานในบทบาทหน้าที่นี้ เราต้องหล่อเลี้ยงความคิดด้วยทัศนคติที่ดีด้วยการตอบแทนสังคมในทุกด้าน ไม่ปิดกั้นในการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือ ซึ่งหมุดเป้าหมายของเราต่อจากนี้ เรามุ่งสร้างให้ มทร.ธัญบุรีให้เป็นแบตเตอรี่ที่สำคัญในการผลิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ เรามุ่งปฏิบัติ ให้ มทร.ธัญบุรี เป็นแบตเตอรี่ต่อการพัฒนาบัณฑิตนักปฏิบัติมืออาชีพ พัฒนาแรงงานที่มีทักษะวิชาชีพ และเทคโนโลยีชั้นสูงนั้นให้กับภาคอุตสาหกรรม เรามุ่งขยายผลให้ มทร.ธัญบุรี เป็นแบตเตอรี่ที่จะแสดงศักยภาพทั้งงานวิจัยและกำลังคน ตอบสนองนโยบายของภาครัฐซึ่งวาดไว้ในอนาคต 15 ปี โดยทั้งสามส่วนพบว่า เรามุ่งมั่นและตั้งใจในการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างเต็มความรู้ความสามารถ ทั้งในมิติแรงงาน นวัตกรรม และสุดท้ายนี้ มทร.ธัญบุรี ขอเป็นส่วนหนึ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับประเทศอีกหนึ่งช่องทางด้วยความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นของ รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
แม่ทัพใหญ่แห่ง มทร.ธัญบุรี ฉายภาพรวมของการพัฒนาและปฏิรูปภาคการศึกษาในมหาวิทยาลัยได้อย่างน่าสนใจว่า พื้นฐานของมหาวิทยาลัยเป็นอาชีวศึกษา ได้เดินทางผ่านการปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงมาหลายระยะ นับตั้งแต่ วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยในทุกช่วงระยะเวลาเราได้บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีเพื่อส่งต่อองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์จากรุ่นสู่รุ่นจวบจนถึงปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด “มุ่งผลิตบัณฑิต นักปฏิบัติมืออาชีพ”
การเข้ามาอยู่ในระดับอุดมศึกษามีตัวชี้วัดการประเมินที่เป็นมาตรฐาน เป็นพลังสนับสนุนที่สำคัญในการทำให้ มทร.ธัญบุรี มุ่งหน้าปฏิรูปภาคการศึกษาภายในมหาวิทยาลัย โดยเริ่มจากคณาจารย์ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ แบบแรกมทร.ธัญบุรี นำระบบ “สเต็มศึกษา” หรือ (STEM Education) มาปรับใช้ซึ่ง
“การปฏิบัติหน้าที่เป็นอธิการบดีในวันนี้ไม่ได้ทำงานเพียงเพื่อซื้อเวลาหรือรักษาตำแหน่ง แต่สิ่งที่พึงปฏิบัติและย้ำกับตัวเองอยู่เสมอคือ “เราจะทำอย่างไรให้กับมหาวิทยาลัยเกิดการพัฒนาไปในมิติต่างๆ ของสังคม เศรษฐกิจและประเทศชาติ”
เพราะเราเชื่อเสมอว่าโอกาสอยู่บนอากาศที่เราสามารถไขว่คว้าได้ตลอดเวลา”