ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 05 เมษายน พ.ศ. 2560
หลังจากที่ 5 ศิลปินร่วมสมัยได้วาดภาพแนวกราฟฟิตี้แสดงความอาลัยบนผนังอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโครงการ “ภาพเขียนผนังอาคารเพื่อถวายความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9” ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปผ่านมาบริเวณสี่แยกปทุมวัน ล่าสุดอาคารหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครกลับมาเรียกความสนใจอีกครั้ง เมื่อ 2 ศิลปินผู้เชี่ยวชาญศิลปะแนวสตรีท อย่าง ดนัยพัฒน์ เลิศพุทธตระการ และคเณศ นิ่มวัฒน์ ได้นำทีมนักศึกษาจาก 5 สถาบัน ทำภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมิน ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาด 34 เมตร โดยเทคนิค Wheat Pasting พร้อมนำขึ้นผนังอาคารหน้าตึกหอศิลป์ กทม. ฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้ามาบุญครองเซ็นเตอร์
นายอภินันท์ โปษยานนท์ กรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ กล่าวว่า การขึ้นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากที่ศิลปินร่วมสมัย 5 ท่านได้ขึ้นไปวาดภาพการ์ตูนแนวกราฟฟิตี้ในรูปต่างๆ แสดงความอาลัยในหลวง ร.9 ซึ่งกิจกรรมนี้ 2 ศิลปินและนักศึกษากว่า 200 คนจาก 5 สถาบันราวกว่า 200 คน ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาลัยช่างศิลปะ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ร่วมกันสร้างสรรค์ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ในเทคนิคพิเศษ โดยนำกระดาษขนาดใหญ่มาแปะบนผนังกำแพงที่ทาด้วยกาวลาเท็กซ์ ภาพที่ขึ้นมีความสูง 34 เมตร หรือขนาด 600 ตารางเมตร บนผนังที่สูงราวตึก 12 ชั้น
ด้านนายคเณศ นิ่มวัฒน์ ศิลปินสตรีท อาร์ต กล่าวว่า ผลงานภาพพระบรมสาทิสลักษณ์สร้างสรรค์ขึ้นจากกระดาษร้อยปอนด์ จำนวน 80 แกรนด์ ที่วาดโดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก สร้างภาพออกมาในลักษณะโปสเตอร์ออกมาเป็นส่วนๆ แล้วนำแต่ละส่วนมาให้กลุ่มนักศึกษาช่วยกันระบายสี เน้นเป็นสีแสดงความอาลัย จากนั้นนำชิ้นส่วนของโปสเตอร์ดังกล่าวมาทากาวลาเท็กซ์ติดทีละส่วนตามผนังอาคารไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 5-10 วันถึงจะได้ภาพสำเร็จรูป ซึ่งเป็นการใช้เทคนิคที่เรียกว่า “wheat pasting” คือการแปะโปสเตอร์โดยใช้กระดาษและกาวลาเท็กซ์ แต่เป็นเทคนิคโมเดิร์นสมัยใหม่ที่ศิลปินสตรีทอาร์ตนิยมใช้กัน ตามแนวถนนหรืออาคารต่างๆ ที่ต่างประเทศจะเห็นเยอะมาก มันก็คือศิลปะแนวใหม่ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้คือ ทำอีกที่หนึ่งแล้วย้ายไปอีกที่ ผลงานชิ้นนี้ก็เช่นกัน
“ก่อนจะมาเป็นภาพนี้ ทางหอศิลป์เขาอยากได้ภาพวาด แต่ในการทำเป็นลักษณะภาพที่ใหญ่มากๆ ค่อนข้างยาก เลยเสนอให้ทำเป็นแบบแปะติดแบบนี้ แบ่งออกเป็นส่วนให้น้องๆ นักศึกษามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งตัวผมเองและเพื่อนอีกคนก็เป็นศิลปินที่ชื่นชอบทำงานลักษณะนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะตามตึก ตามอาคาร ซึ่งมันน่าสนใจมาก การขึ้นภาพบนตึก คนที่ผ่านไปผ่านมาจะได้เห็นชัดเจนมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่นี้ ผู้คนเดินผ่านมาผ่านไปเยอะอยู่แล้ว”
ศิลปินแนวสตรีทเล่าต่ออีกว่า การได้มีส่วนร่วมถือเป็นโอกาสและความโชคดีมาก เชื่อว่าศิลปินหลายคนที่ได้ทำผลงานแสดงความอาลัยก็จะรู้สึกเช่นเดียวกันอยู่แล้ว นอกจากนี้แล้ว ตนเองก็ได้นำเอาความรู้ที่ร่ำเรียนมามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งตนเองมีความถนัดและเรียน ป.โท ในด้านศิลปะกับชุมชน ซึ่งเป็นวิชาที่นำเอาศิลปะมาผสมผสานเข้ากับชุมชน ก็ไม่ได้ต่างจากงานในครั้งนี้ที่สร้างขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนได้เห็นและมีปฏิกิริยาต่างๆ กับภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ที่ทำขึ้น ตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง คนก็สนใจประมาณหนึ่ง เพราะยังไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไร เพราะการติดตั้งค่อนข้างท้าทาย มีการนั่งร้านโดยใช้ลวดสลิงค่อยๆ ปล่อยลงมา ส่วนศิลปินก็เอาส่วนประกอบของภาพไปติดแปะ คนเขาก็มีรีแอคชั่นที่ต่างกันออกไป เกิดคำพูดคำถามขึ้นมาในลักษณะต่างกัน คือเป้าหมายหนึ่งของคนทำงานที่อยากจะให้ภาพสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดตาม จึงอยากให้ภาพเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างศิลปะกับประชาชน
ศิลปินแนวสตรีทยังแสดงความเห็นอีกว่า สำหรับการทำงานครั้งนี้มีความภูมิใจมาก เพราะจัดแสดงเป็นเวลานาน ทุกคนใช้เวลาในการเตรียมตัวนาน กว่าจะออกมาเป็นภาพได้ ก็แยกกันทำในหน้าที่ต่างๆ ทั้งยังมีการทดสอบความคงทนของภาพและสี เนื่องจากมันอยู่บนผนังสูง ต้องเผชิญกับแดดฝน และพระบรมสาทิสลักษณ์นี้เป็นกระดาษ เลยทำขึ้นโดยใช้เทคนิคพิเศษ ใช้กาวลาเท็กซ์ติด และก็ใช้เคลือบด้านหน้าอีกที เพราะคุณสมบัติของกาวลาเท็กซ์สามารถเป็นตัวเคลือบพื้นผิวได้ และผ่านการทดสอบฉีดน้ำมาแล้ว คาดว่าจะยังคงสวยงาม และทนฝนและแดดได้นานเช่นกัน
ทั้งนี้ กรรมการมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ ยังบอกอีกว่า การทำเป็นภาพขนาดใหญ่บนผนังอาคารของหอศิลป์ กทม.จะง่ายต่อการมองเห็นของผู้คน เพราะบริเวณนี้มีคนเดินผ่านเยอะมากอยู่แล้วทั้งคนไทยและต่างประเทศ ถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ หลังจากกิจกรรมครั้งนี้แล้วก็จะมีกิจกรรมอีกต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแสดงภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์จากฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนวางแผน จะต้องติดตามกันต่อไป.
C-170405008017
