คอลัมน์ ทรงสร้างประโยชน์สุขสู่ปวงประชา: เปิดโครงการคุรุราชัน’พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน’มทร.ธัญบุรีให้ครูและพสกนิกรร่วมสืบสานน้อมนำเป็นต้นแบบ (1)

สยามรัฐ ฉบับวันที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
เสกสรร สิทธาคม/เรียบเรียง อลงกรณ์ รัตตะเวทิน มทร.ธัญบุรี/ข้อมูล
“…ถ้าครูไม่ห่วงประโยชน์ที่ควรจะห่วง หันไปห่วงอำนาจ ห่วงตำแหน่งห่วงสิทธิและห่วงรายได้กันมากเข้าๆแล้ว จะเอาจิตเอาใจที่ไหนมาห่วงความรู้ความดีความเจริญของเด็กความห่วงในสิ่งเหล่านั้นก็จะค่อยๆ บั่นทอนทำลายความเป็นครูไปจนหมดสิ้น จะไม่มีอะไรเหลือไว้พอที่ตัวเองจะภาคภูมิใจหรือผูกใจใครไว้ได้ความเป็นครูก็จะไม่มีค่าเหลืออยู่ให้เป็นที่เคารพบูชาอีกต่อไป…”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานแก่ครูอาวุโส ในโอกาสเข้าเฝ้าฯวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2521
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ถวายพระราชสมัญญา”พระผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 และเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่พสกนิกรชาวไทยสืบไปตลอดกาลนานพระผู้ทรงเป็นครูฯ การศึกษาในระบบ
พระราชกรณียกิจในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษาในระบบโรงเรียนนั้นเริ่มจากในพ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงเรียนจิตรลดาขึ้นสำหรับพระราชโอรสพระราชธิดา บุตรข้าราชบริพารในพระราชวัง ตลอดจนเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ร่วมเรียนด้วย และเมื่อพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรและหน่วยปฏิบัติการทหาร ตำรวจตามบริเวณชายแดนทุรกันดารอยู่เนืองๆ ทำให้ทรงทราบถึงปัญหาการขาดแคลนที่เรียนของเด็กและเยาวชน อันเนื่องมาจากการให้บริการของรัฐไม่ทั่วถึง และมีปัญหาเรื่องความแตกแยกในอุดมการณ์ทางการเมือง ทำให้เยาวชนบางส่วนขาดโอกาสทางการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9ได้มีพระราชดำริให้ทหารช่วยก่อสร้างโรงเรียนเพื่อให้ทหารมีส่วนช่วยเหลือด้านการศึกษาตามโอกาสอันควรให้แก่ประชาชน โดยทรงมอบหมายให้แม่ทัพภาคเป็นแกนนำในการก่อสร้างโรงเรียนในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบและพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียนดังกล่าว พระราชทานนามว่า “โรงเรียนร่มเกล้า”
นอกจากนี้พระองค์ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อร่วมสร้างโรงเรียน
ตำรวจตระเวนชายแดนสำหรับชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ในดินแดนทุรกันดารไกลการคมนาคม มีชื่อเรียกว่า “โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์” และโรงเรียนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ตั้งขึ้นตามพระราชดำริโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริ
โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริ และอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อให้เป็นสถานศึกษาสำหรับบุตรหลานข้าราชบริพารและแก่เยาวชนทั่วไป โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ช่วยเหลือ ทรงอุปถัมภ์หรือทรงมีพระราชดำรัสแนะนำ ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียน พระราชทานพระบรมราโชวาทเพื่อสนับสนุนและทรงเป็นกำลังใจแก่ครูและนักเรียนเป็นประจำมีจำนวน 104 โรง
โรงเรียนจิตรลดา กลุ่มโรงเรียนราชวินิต โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจนในพระบรมราชูปถัมภ์ กลุ่มโรงเรียนร่มเกล้าโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีโรงเรียนที่จัดตั้งตามพระราชดำริและอยู่ในความดูแลของมูลนิธิหรือองค์กรต่างๆ ได้แก่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์
โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสต่างๆ เช่น โรงเรียนรัชดาภิเษกจำนวน 10 โรงเรียน โรงเรียนนวมินทราชูทิศ 5 โรงเรียน โรงเรียนรัชมังคลาภิเษกจำนวน 33โรงเรียนโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย เป็นโรงเรียนที่พระราชทานนาม โดยต่อท้ายด้วยชื่อจังหวัดมี 9 โรงเรียน
พระผู้ทรงเป็นครูฯ “การศึกษานอกระบบ”
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักรราช 2489 นั้น สภาพบ้านเมืองและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยยังอยู่ในสภาพล้าหลัง ประชาชนส่วนใหญ่ยังอัตคัดขัดสนในทุกด้าน
ด้วยความที่ทรงห่วงใยในความทุกข์ยากของอาณาประชาราษฎร์ ทรงตัดสินพระราชหฤทัยที่จะเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎร โดยเฉพาะในพื้นที่ประชาชนยากจนห่างไกลและทุรกันดารเสียก่อน
การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในระยะต้นรัชกาลระหว่าง พ.ศ.2494-2496 มีลักษณะเป็นการส่วนพระองค์ โดยทรงเยี่ยมราษฎรเพื่อทรงไต่ถามถึงความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของราษฎรอย่างใกล้ชิด
ต่อมาการเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนพสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคเปรียบประดุจดังการสร้าง “พระคลังข้อมูลด้านการพัฒนา”ด้วยพระองค์เอง เพราะทรงทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนนานาประการที่มวลพสกนิกรของพระองค์ประสบอยู่ จนมิอาจช่วยเหลือตนเองได้
สำหรับการศึกษาของประชาชนชาวไทยที่อยู่นอกระบบนอกโรงเรียนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ทรงเห็นความสำคัญของการศึกษาสำหรับประชาชนที่อยู่ในชนบทเป็นอย่างมาก
ทรงริเริ่มตั้ง “ศาลารวมใจ” ตามหมู่บ้านชนบทเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่อ่านหนังสือ โดยพระราชทานหนังสือประเภทต่างๆ แก่ห้องสมุด “ศาลารวมใจ” นอกจากนั้นมีพระราชดำริจัดทำโครงการ “พระดาบส” เมื่อ พ.ศ.2514
(อ่านต่อฉบับหน้า)
C-170503021104

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]