
ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2560
นิสิตา/รายงาน
แม้ยุคนี้จะเป็นยุคทันสมัยไฮเทคเป็นยุคที่เทคโนโลยีสื่อการเรียนการสอนถูกสร้างด้วยคอมพิวเตอร์แต่ด้วยข้อจำกัดของความเจริญที่ยังไม่ทั่วถึงและเท่าเทียม ส่งผลให้สื่อไฮเทคเหล่านั้นเข้าถึงตัวผู้เรียนได้เฉพาะเด็กในสังคมเมืองหรือในพื้นที่ที่ความเจริญเข้าไปถึงเท่านั้น ในขณะที่เด็กในชนบทพื้นที่ห่างไกลที่ยังคงขาดโอกาส
ก่อให้เกิดโครงการดีๆ”เทคโนฯ สร้างสรรค์ปันสื่อให้น้อง”ของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งต่อสื่อการเรียนการสอนดีๆ ให้กับน้องๆ
ปีการศึกษา 2560 นี้ พี่ๆ ซีเนียร์ในฐานะ “นักเทคโนโลยีทางการศึกษา” ได้นำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาประยุกต์ใช้ ด้วยการผลิตสื่อการเรียนการสอนทำมือ นำไปมอบให้กับโรงเรียนห่างไกลในชนบท ที่ยังขาดแคลนและต้องการสื่อการสอนสำหรับเป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพให้กับเด็กๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มโอกาสทางการศึกษา
ปีนี้พี่ๆ ที่แสนใจดีได้นำสื่อที่ช่วยกันพัฒนาขึ้นส่งมอบให้กับ 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก มูลนิธิเด็ก ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โรงเรียนเกล็ดแก้ว ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ โรงเรียนสหกรณ์บำรุงวิทย์ ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เห็นเรื่องราวดีๆ แบบนี้จะปล่อยผ่านได้ยังไง “นิสิตา” ต้องขอนำมาขยายเริ่มจาก”พลอย”…เสาวลักษณ์ พันธ์ประเสริฐ อาสาเปิดฉากว่า”สื่อออนไลน์ในปัจจุบันในพื้นที่ที่ยังห่างไกลยังไม่ค่อยเสถียร ดังนั้น สื่อการเรียนการสอนทำมือจึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เพราะการได้สัมผัสของจริงช่วยในเรื่องของการจดจำที่ดีกว่า” ในกลุ่มของพลอยมีสมาชิกทั้งหมด 58 คน ลงพื้นที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็กมูลนิธิเด็ก จ.กาญจนบุรี ซึ่งตอนเช้าทางโรงเรียนมีการเรียนการสอนแบบวิชาการส่วนช่วงบ่ายสอนทางด้านวิชาชีพเป็นการเรียนการสอนแบบนอกระบบ โดยได้นำสื่อจำนวน 30 ชิ้นแบ่งออกเป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้เด็กๆ มีความตื่นเต้นและให้ความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อได้มีการเข้าร่วมกิจกรรม ตามกิจกรรมฐาน และยังมีการจัดกิจกรรมนันทนาการให้กับน้องๆ ด้วย การมอบสื่อในครั้งนี้เป็นการส่งเสริมการมีจิตอาสาและส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ของทั้งตนเองและน้องๆ”
“ต้น”…ธีรพงศ์ พรายบัว สานต่อไม่ให้ขาดตอนว่า” ผมอยู่กลุ่มเดียวกับพลอย สื่อที่นำไปให้น้องเป็นสื่อแบบบูรณาการ แบ่งกิจกรรมเป็น 5 ฐาน แต่ละฐานมีสื่อ 2 ชิ้น รวมเป็น 10 ชิ้น แบ่งฐานออกเป็นวิชาสุขศึกษา วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ระหว่างที่ทำกิจกรรมน้องๆ จากชั้น ป.1-ป.6 เข้าร่วมกิจกรรม ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ทางโรงเรียนมีการเรียนการสอนแบบวิชาการ ส่วนช่วงบ่ายสอนทางด้านวิชาชีพ เป็นการเรียนการสอนแบบนอกระบบการที่ทุกคนมีส่วนร่วม
ในการเรียนร่วมกันทำให้เกิดการเรียนรู้และจดจำ มีทักษะในการทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นในการลงพื้นที่ครั้งนี้ผมได้มุมมองและทัศนคติใหม่ๆรู้สึกดีที่ได้เป็นผู้ให้และได้เติมเต็มสิ่งที่น้องๆขาดไป”
ขณะที่”เปอร์เซ็นต์”…ณัฐธยาน์ อยู่ชมสุข ยิ้มหวานก่อนเล่าว่า “กลุ่มของเปอร์เซ็นต์ได้ลงพื้นที่ โรงเรียนเกล็ดแก้ว จ.ชลบุรี โดยมีน้องๆมาร่วมทำกิจกรรม 80 คน ได้นำสื่อการสอนที่จัดทำไปมอบให้กับทางโรงเรียนทั้งหมด 30 ชิ้น ซึ่งเป็นสื่อการเรียนการสอนที่น้องๆสามารถหยิบมาเรียนรู้เองได้ ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันสื่อให้กับน้อง ได้รู้จักการให้ นำสื่อที่ผลิตไปใช้ ให้เกิดประโยชน์ เป็นแหล่งการเรียนรู้ให้กับน้องๆระหว่างที่ร่วมทำกิจกรรมน้องๆทุกคนให้ความสนใจตั้งใจฟังและให้ความร่วมมือ รู้สึกภาคภูมิใจและมองว่าเป็นผลสำเร็จของนักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาที่ได้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์”
“แบงค์”…ปิยบุตร ปานดี เสริมต่อว่า”ได้ร่วมออกแบบสื่อวิชาสุขศึกษา โดยออกแบบสื่อเป็นกล่องความรู้ขบวนรถไฟโภชนาการ ลักษณะของสื่อนี้จะเปิดกล่องออกมาเป็นรถไฟมี 5 โบกี้ แต่ละโบกี้คืออาหารแต่ละหมู่ ซึ่งมี 5 หมู่ โดยให้น้องๆนำรูปภาพอาหารแต่ละหมู่ไปใส่ลงโบกี้รถไฟให้ตรงตามหมู่อย่างเช่น รูปข้าว รูปขนมปัง จะใส่ในโบกี้ที่ 1 คือ หมู่คาร์โบไฮเดรต ได้เห็นรอยยิ้มของน้องๆ อยากคุย อยากเล่น ผมประทับใจและมีความสุขมากตอนกลับมีน้องๆ มาส่งขึ้นรถภาพของน้องๆ ที่ยืนโบกมืออยู่ในใจของผม จนผมอยากกลับไปที่โรงเรียนอีก การเป็นผู้ให้การที่ได้สร้างสรรค์สิ่งดีให้กับน้องๆที่ขาดโอกาสคือความสุขที่เกิดในใจ ผมจะกลับมามอบรอยยิ้มให้น้องๆอีกครั้ง”
ปิดท้ายด้วย”โอ๊ต”กานต์ ศรีมาลีจ้อย ตัวแทนส่งมอบสื่อโรงเรียนสหกรณ์บำรุงวิทย์ จ.เพชรบุรี บอกว่า”ภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความรู้ให้กับน้องๆด้วยการมอบสื่อการสอนที่พวกเราทุกคนช่วยกันพัฒนาขึ้นโดยเป็นสื่อเกี่ยวกับศิลปะและดนตรีและยังมีชุดการเรียนการสอนคอมะพิวเตอร์ช่วยสอน CAI อีก 5 ชุดเพื่อให้คุณครูนำไปใช้ในการสอนน้องรู้สึกมีความสุขที่ได้เป็นผู้มอบความรู้และทักษะใหม่ให้กับน้องๆได้นำความรู้ที่ได้เรียนมาใช้จริงระหว่างที่สาธิตการใช้สื่อให้กับน้องๆได้รับความอนุเคราะห์จากผู้อำนวยการโรงเรียนและครูประจำชั้นให้คำปรึกษาและช่วยแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้สื่อมีความสมบูรณ์แบบและสร้างศักยภาพการเรียนรู้ให้กับน้องๆ”
สื่อทำมือที่พี่ๆช่วยกันสร้างสรรค์ดูแล้วแม้จะไม่หรูเลิศแต่ถ้าวัดกันที่ความมุ่งมั่นและตั้งใจแล้ว”นิสิตา”ว่าเกินร้อย เชื่อว่าจะเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กในชนบทที่ขาดโอกาสได้เป็นอย่างดี
เป็นอีกช่องทางที่ช่วย”ลดความเหลื่อมล้ำ”แบบจับต้องได้จริงไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู!!!