
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560
วีระพันธ์ โตมีบุญveeraphant@dailynews.co.th
โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพื่อเป็นพื้นที่ตัวอย่างพัฒนาพันธุ์พืชเศรษฐกิจ ในจ.เพชรบุรีและใกล้เคียง เป็นที่รู้จัก สนใจของคนทั่วไป ผู้เคยไปจะเห็นว่ามีกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่หลายต้น
นั่นคืออีกหนึ่งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ กังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยแรงลมต่ำจนสำเร็จ ปกติลมในประเทศไทยมีความเร็วเฉลี่ย 2-4 เมตรต่อวินาที ยกเว้นภาคใต้ จึงเชื่อกันว่า การพยายามนำมาใช้อาจไม่คุ้ม เพราะการผลิตไฟฟ้าที่มีอยู่ในโลก ทำขึ้นเพื่อรองรับแรงลมในแถบยุโรปที่เร็ว 7 -10 เมตรต่อวินาที
ผศ.ดร.วิรชัย โรยนรินทร์ ผอ.ศูนย์วิจัยพลังงาน ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เล่าว่า ในราวปี 2551 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งขณะนั้น ยังไม่ได้เสด็จฯประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ทรงมอบหมายให้ศึกษาวิจัยการใช้กังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยแรงลมต่ำ ในพื้นที่โครงการชั่งหัวมัน ในฐานะที่ ผศ.ดร.วิรชัย จบการศึกษาด้านนี้มาจากประเทศอังกฤษ โดยพระราชทานเงินส่วนพระองค์ให้ 7 ล้านบาท
หากการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังลมด้วยเทคโนโลยีต่างประเทศ มีค่าลงทุนสูงและอาจไม่คุ้ม แต่การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาในประเทศ เป็นการเริ่มต้นใหม่หมด ทั้งการออกแบบและผลิตใบพัดขึ้นใหม่ในประเทศ ดุมหรือแกนหมุนก็เช่นกัน มีเพียงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเท่านั้นที่นำเข้า เพื่อผลิตไฟฟ้าได้ที่ความเร็วลม 3.5 เมตรต่อวินาที ทั้งนี้แม้จะมีการผลิตกังหันลมอยู่แล้ว แต่เป็นการใช้งานอื่น คนละศาสตร์กับการผลิตไฟฟ้า
การวิจัยทำต้นแบบเสร็จ ผลิตไฟฟ้าได้เป็นต้นแรก นำขึ้นน้อมเกล้าฯถวาย ทรงให้ทำเพิ่มและพระราชทานเงินอีก 7 ล้านบาท ทางมหาวิทยาลัย ทำถวายอีก 9 ต้น กองทัพบกสมทบเงินเพื่อทำอีก 10 ต้น
ผศ.ดร.วิรชัย กล่าวว่า ในช่วงนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯประทับที่โรงพยาบาลแล้ว จึงต้องกราบบังคมทูลถวายรายงานผ่านทางวีดิทัศน์
เป็นการทรงงานที่ยังประโยชน์ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาศาสตร์เพื่อใช้พลังงานหมุนเวียน ขณะที่ประทับอยู่โรงพยาบาล
ทั้งเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยแรงลมต่ำในประเทศเป็นครั้งแรก ส่งผลให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ประสงค์จะผลิตไฟฟ้าแรงลมใช้เป็นต้นแบบ
ผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว ศูนย์วิจัยพลังงาน มทร.ธัญบุรี ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเอกชน โดย บริษัทเอ็มอาร์พีเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นกิจการแปรรูปโลหะภัณฑ์ขนาดใหญ่ เพื่อเตรียมรองรับการผลิตกังหันลมเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาด 100 กิโลวัตต์ โดย 1 ต้นจะผลิตไฟฟ้าได้ 12,000 ยูนิตต่อ เดือน ที่ความเร็วลมเฉลี่ย 5-6 เมตรต่อวินาที ซึ่งจะประหยัดได้ถึง 48,000 บาทต่อต้นต่อเดือน
การพัฒนาเทคโนโลยีของกังหันลมล่าสุด ของศูนย์วิจัยพลังงาน มทร.ธัญบุรี ทำให้สตาร์ต หรือเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าได้โดยอัตโนมัติเมื่อแรงลมถึง 2.5 เมตรต่อวินาที ขณะที่ทั่วไปทำได้ต่ำสุด 3.5 เมตรต่อวินาที และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าที่รอบต่ำสุดในโลก เพียง 54 รอบ จากปกติ 1,500 รอบ เป็นระบบการผลิตที่ไม่มีเกียร์ จึงไม่มีเสียงดัง
การผลิตไฟฟ้าพลังงานลม มีจุดเด่นตรงใช้พื้นที่ไม่มาก บริเวณใต้กังหันยังใช้ประโยชน์ได้ การติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่เกษตรกรรม ก็ทำได้
สัปดาห์ที่แล้ว กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำโดยนายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดี เข้าเยี่ยมชมโรงงานบริษัท เอ็มอาร์พีเอ็นจิเนียริ่ง เพื่อแสดงการสนับสนุนความพยายามแสวงหาระบบเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงานของโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากการผลิตในระบบอุตสาหกรรม ใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 35.7 เปอร์เซ็นต์ของการใช้พลังงานในประเทศ การพยายามลดการใช้ กำหนดทั้ง การอนุรักษ์พลังงานโดยใช้ก๊าซชีวภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพระบบไอน้ำในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ การปรับแต่งการเผาไหม้ในภาคอุตสาหกรรมและกำลังจะนำระบบตรวจสอบการใช้พลังงานหม้อน้ำแบบออนไลน์
การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนทุกด้าน ทั้งแสงอาทิตย์ พลังงานลม โดยจะส่งเสริมการประหยัดพลังงานในกลุ่มเอสเคิร์ฟหรืออุตสาหกรรมที่ใช้นวัตกรรม โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ทั้งการจัดทำมาตรฐาน หลักเกณฑ์การใช้พลังงาน อบรมให้ความรู้ และร่วมกับภาคเอกชน สถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน
ในอนาคตอันใกล้ คงได้เห็นรูปธรรมการประหยัดพลังงานในอุตสาหกรรม
ที่เกิดจากแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะที่ทรงประชวรอยู่ในโรงพยาบาล
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้.