
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560
ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ บุญพิสุทธินันท์ วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี เผยว่า การทำผลิตภัณฑ์บำรุงรักษาใบหน้าให้ดูขาวกระจ่างใส ลดฝ้ากระ และจุดด่างดำ ผู้ผลิตทั่วโลกส่วนใหญ่จะนำเทคโนโลยีนาโนมาใช้ในขั้นตอนการผสมเครื่องสำอางด้วยเทคโนโลยี “นีโอโซม” แต่ด้วยสารสกัดเครื่องสำอางที่ผลิตด้วยจึงนำผลเทคโนโลยีนี้มีราคาแพง เพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ทีมงานวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย จึงได้ทำโครงการวิจัยเพื่อหาสารทดแทนสารสกัดนำเข้าจากต่างประเทศ พบว่ากะทิมีคุณสมบัติเป็นสารอิมัลซิไฟเออร์ มีสรรพคุณช่วยทำให้หน้าขาว ลดฝ้ากระได้ดี จึงนำมาเข้าสู่กระบวนการนีโอโซม เพื่อให้การกักเก็บสารสำคัญมีประสิทธิภาพสูงถึง 80% ดีกว่ากรดสเตียริก ที่มีประสิทธิภาพเก็บกักสารสำคัญได้ไม่ถึง70%
นอกจากนั้น ในการศึกษาวิจัยยังพบว่า เงาะพันธุ์สีชมพูพืชพื้นเมือง อ.ขลุง จ.จันทบุรี มีสารสำคัญต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระ กระตุ้นร่างกายสร้างคอลลาเจนและลดการสร้างเมลานิน สารที่ทำให้เกิดฝ้ากระได้อีกด้วย
ผศ.ดร.กรวินท์วิชญ์ งานวิจัยทั้งสองชิ้นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวหน้า เมื่อนำไปทดลองกับผู้ใช้ 100 รายผลปรากฏว่า มีประสิทธิภาพในการช่วยบำรุงให้ผิวหน้ากระจ่างใสลดริ้วรอยลดฝ้ากระจุดด่างดำช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ ทั้งยังช่วยในการซึมผ่านสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ยังไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ หากมีแสงแดดร้อนจนเหงื่อไหล สามารถใช้บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นได้ดี
งานวิจัยและพัฒนาผลผลิตจากภาคเกษตรนี้ ได้จดสิทธิบัตรไว้แล้ว ถือว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับมะพร้าวกะทิและเงาะพันธุ์สีชมพู ที่นับวันจะไม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ให้มีการอนุรักษ์คงอยู่ไว้สืบต่อสู่รุ่นลูกหลาน อีกทั้งช่วยลดการนำเข้าสารเคมีจากต่างประเทศ และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ สนใจนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์สอบถามได้ที่ 0-2592-1999 ต่อ 1112.