คอลัมน์ สัมภาษณ์: อรธีรา รสหอม น.ศ.ทุนพระราชทาน-คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์’จะเป็นคนดี ทางานตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ’

           น.ส.อรธีรา รสหอม หรือน้องส้ม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 (หลักสูตรต่อเนื่อง) สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี กล่าวเริ่มต้นระหว่างบอกเล่าเรื่องราวที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และนักศึกษาทุนการศึกษาพระราชทาน มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ ในหลวงรัชกาลที่ 9
“น้องส้ม” เล่าอีกว่า เมื่อครั้งอายุ 13 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุทำให้สลบถึง 9 วัน และนอนในห้องไอซียูกว่า 19 วัน จากนั้นนอนรักษาตัวที่ โรงพยาบาล 4 เดือน อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้น้องส้มกลายเป็นคนพิการทางการเคลื่อนไหว ต้องใส่ขาเทียมขาขวาและใส่วิกผมตลอดชีวิต ขณะที่การเข้ารับการผ่าตัดแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ครอบครัวมีฐานะไม่สู้ดี เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้างกัน นางจำรูญ แพ่งสุภา แม่ของตนจึงถวายฎีกาถึงในหลวง โดยเนื้อหาในจดหมายใช้ภาษาสามัญธรรมดา จดหมายฉบับนั้นเองทำให้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณทรงรับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์

          “ระหว่างนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาเห็นสภาพตนเองแล้วคิดฆ่าตัวตาย เพราะกลัวไม่ได้เรียนหนังสือ กลัวไม่มีงานทำ กลัวคนอื่นรังเกียจ แต่เมื่อนึกถึงในหลวง เห็นพระองค์ท่านเสด็จฯไปยังสถานที่ต่างๆ พระองค์ทรงงานหนักและลำบาก บวกกับทรงรับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ พระองค์ท่านทรงเป็นขวัญกำลังใจ ต่อลมหายใจ ให้ชีวิตใหม่ หลังพระองค์ท่านทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ยังทรงรับเป็นนักศึกษาทุนการศึกษามูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วย
“วันที่ทราบข่าวพระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย แม่บอกว่าต้องอดทน เข้มแข็ง ตั้งใจทำความดี เป็นคนดีของประเทศ ทุนการศึกษาที่ได้รับพระราชทานมาให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุดด้วยความพอเพียงตามคำสอนของพระองค์ท่าน คิดเสมอว่าพระองค์ท่านต้องมองมาจากบนฟ้า มองนักเรียนและนักศึกษาของท่านดำเนินชีวิต ทำประโยชน์ให้สังคมและเป็นคนดี ช่วยกันพัฒนาประเทศ จึงสัญญาว่าหลังเรียนจบจะขอทำงานให้แผ่นดิน ทำให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน” น้องส้มกล่าว”นางจำรูญ” กล่าวว่า ตัดสินใจเขียนหนังสือถวายฎีกาถึงในหลวง เพราะในหลวงเป็นเทวดาที่อยู่บนดินเพียงพระองค์เดียวที่สามารถช่วยลูกสาวได้ หลังเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือนได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ มีเจ้าหน้าที่จากจังหวัดเข้ามาสำรวจ จากนั้นพระองค์ท่านทรงรับลูกสาวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และ นักศึกษาทุนการศึกษามูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ศึกษาถึงระดับปริญญาตรี พร้อมพระราชทานเงินทุนดำรงชีพครอบครัว 50,000 บาท นำมาเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน
“พระองค์ทรงเป็นเทวดาที่อยู่บนดิน ทรงเมตตาครอบครัวของเรา จึงสอนลูกเสมอ เงินที่ได้รับพระราชทานให้ยกขึ้นเหนือหัว ใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด และนำคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในการดำเนินชีวิต”

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]