ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2562
มหาวิทยาลัยไม่ใช่มีหน้าที่แค่สอนหนังสือ ให้ความรู้เท่านั้น แต่ต้องบริการสังคม นำองค์ความรู้ด้านวิชาการ เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ พัฒนาชุมชน และทรัพยากรบุคคลในทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับคุณภาพสังคม เศรษฐกิจและประเทศ
ล่าสุด 5 สถาบันชั้นนำของประเทศ อย่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดโครงการ SME ONLINE ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Digital to Global เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยพร้อมแข่งขันในตลาดออนไลน์สากล ผ่าน e-Marketplace ชั้นนำระดับโลกและระดับภูมิภาค
สุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการ สสว. กล่าวว่าเป้าหมายหลักของโครงการปีนี้ คือ การต่อยอด ส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการภายใต้แนวคิด Digital to Global โดย มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการพร้อม แข่งขันในตลาดออนไลน์ระดับสากล ผ่าน e-Marketplace เช่น Amazon และ Alibaba ขายสินค้าไปทั่วโลก Far-e ขายตลาดจีน Khaleang.com ขายตลาดเวียดนาม กัมพูชา และพม่า เป็นต้น ดังนั้น ความร่วมมือกับ 5 มหาวิทยาลัยชั้นนำ ในการเปิดอบรมให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการแข่งขันโลกดิจิทัลทั้งระบบ
มหาวิทยาลัยทั้ง 5 แห่ง รับผิดชอบในพื้นที่ต่างกัน ดังนี้ มทร.ธัญบุรี รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง มร.สส.รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานและตะวันออก มช. รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มธ. รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และ ISMED รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่าปีนี้เป็นปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยได้เข้าร่วมโครงการพัฒนา SME ONLINE ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้พัฒนา SMEs เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำตลาดออนไลน์แล้วกว่า 37,000 ราย เตรียมความพร้อมในการถ่ายภาพสินค้า และจัดทำ รายละเอียดสินค้ากว่า 67,000 ผลิตภัณฑ์ และสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้กว่า 5,000 ร้านค้า และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการ กว่า 240 ล้านบาท
“ปีนี้ มหาวิทยาลัยจะต่อยอดผู้ประกอบการSMEs ที่เข้าร่วมโครงการก่อนหน้านี้ และผู้ประกอบการ SMEs รุ่นใหม่ มีเป้าหมาย ส่งเสริมผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 15,080 ราย เตรียมความพร้อมสินค้าและบริการไม่น้อยกว่า 30,000 ผลิตภัณฑ์ และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท โดยมุ่งพัฒนาสินค้าให้เป็นสินค้าพรีเมียม และพัฒนาตลาดให้ใหญ่ขึ้น ไม่ได้ขายเฉพาะในประเทศ พัฒนาสินค้า ผู้ประกอบการ SMEs ครอบคลุมตั้งแต่ต้อนน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” รศ.ดร.ประเสริฐ กล่าว
ขณะนี้ “มทร.ธัญบุรี” ได้จัดตั้งศูนย์นวัตกรรมและความรู้ RMUTT Innovation & Knowledge Center ที่จตุจักร เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงนวัตกรรม องค์ความรู้ และงานวิจัยในการพัฒนาผู้ประกอบการ SME ONLINE ทั้งผู้ประกอบการภาคกลาง ให้เรียนรู้การทำธุรกิจออนไลน์ เป็นเรื่องการค้าของประเทศ ขายของได้ เป็นการสร้างพลังและแนวทางในการยกระดับ SME ของไทย
โครงการ SME ONLINE ปี 3 ได้ตั้งเป้าจะเชื่อมโยง e-Commerce เพื่อชุมชน ซึ่งมี เป้าหมายในการส่งเสริมผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 50,000 ราย เตรียมความพร้อมสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ไม่น้อยกว่า 100,000 ผลิตภัณฑ์ และสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 640 ล้านบาท
ดร.ภคินี อริยะ รักษาการแทนผู้อำนวยการ ศูนย์นวัตกรรมและการจัดการความรู้ วิทยาลัยศิลปะสื่อและเทคโนโลยี มช.กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ พบว่า ผู้ประกอบการมีความสนใจอยากทำธุรกิจบนออนไลน์ แต่พวกเขายังขาดความรู้และขาดทุนที่จะซื้อทรัพยากร ในการทำธุรกิจบนออนไลน์ เมื่อ มช.ร่วมกับ สสว. ได้พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตามสภาพความเป็นจริง มีกระบวนการพัฒนาผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดระดับสากลทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ
“มช.ให้ความรู้ เทรนนิ่งผู้ประกอบการ เพื่อทำให้ได้ชุดความรู้ และมีแอปพลิเคชันช่วยทำให้เข้าใจพัฒนาคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ รวมถึงติดตามกระบวนการเรียนรู้ ทำให้เกิดการขายสินค้าได้จริง มียอดขายเพิ่มขึ้นจริง ยกระดับกลุ่มนักธุรกิจเล็กๆ SMEs เข้าสู่ SMEONLINE ตลาดออนไลน์ระดับสากล ถือเป็นกลไก หรือตัวต้นแบบของประเทศ ทำให้สินค้าไทยรู้จักในระดับนานาชาติ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการไทยและความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย” ดร.ภคินี กล่าว
ผศ.ดร.สมเดช รุ่งศรีสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มร.สส. กล่าวว่า ปีที่ผ่าน มหาวิทยาลัยได้อบรมผู้ประกอบการ SMEs เข้าเรียนหลักสูตรออนไลน์ 3,500 ราย และมีกลุ่ม SME ONLINE 2,450 รายเพิ่มศักยภาพให้แล้ว 750 ราย ปีนี้จะต่อยอดผู้ประกอบการกลุ่มเก่า และขยายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เติมเต็มความรู้ในส่วนที่ขาด ให้พวกเขาสามารถพัฒนา SME ONLINE สู่ระดับสากลให้ได้ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการที่ได้รับการอบรมและสามารถขาย ร่ำรวยได้มีเพียง 10% เท่านั้น พออาจารย์ นักศึกษาออกมาจากพื้นที่ก็จะขายไม่ได้ ปีนี้จะเพิ่มคุณภาพ ส่งเสริมการขายออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จ มุ่งการตลาด พัฒนาให้เป็นสินค้าคุณภาพเติบโตและพร้อมแข่งขันระดับสากลได้
สำหรับโครงการในปีนี้ 5 มหาวิทยาลัย ชั้นนำ จะเปิดอบรมให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความพร้อมในการแข่งขันโลกดิจิทัลทั้งระบบ นอกจากนั้นยังได้บูรณาการความร่วมมือกับ 14 แห่ง เพื่อสนับสนุนและมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ Lazada Shopee Thailandmall Inwmall Tarad.com Priceza และWongnai เป็นต้น ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมโครงการกับหน่วยงานร่วมในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.smeonline.info Facebook: SMEONLINE BY OSMEP และแอปพลิเคชั่น SME CONNEXT
