ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
มทร.ธัญบุรีจับมือบริษัทยาวิจัยกัญชาทางการแพทย์
ผู้จัดการรายวัน360 – “มทร.ธัญบุรี” จับมือ “เจเอสพีฯ” เดินหน้าวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ หวังเพิ่มทางเลือกการรักษาให้แก่ผู้ป่วย พร้อมเตรียมขยายสู่ตลาดส่งออกเพื่อหารายได้เข้าประเทศ ขณะที่สภากาชาดไทย-อย. เปิดลงทะเบียน “ผู้ป่วย” ใช้กัญชาทางเน็ต 13-21 พ.ค.นี้ ยืนยันตัวตนก่อนพ้นนิรโทษ วางแผนดูแลไม่ให้ขาดยา
วานนี้ (13 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) โดยวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับบริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดำเนินการศึกษาวิจัยกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ประกอบด้วย ร่วมมือในการพัฒนาสายพันธุ์ การทดลองเพาะปลูกเพื่อคัดสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทย การวิจัยเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านการแพทย์ ไปจนถึงการผลิตเป็นยาสมุนไพร ที่สามารถนำออกจำหน่ายเชิงพาณิชย์
นายวิรัช โหตระโวศยะ รองอธิการบดี มทร.ธัญบุรี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาสายพันธุ์ และหาปัจจัยในการปลูกที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้สารสำคัญทางยา เช่น กระบวน การควบคุมความชื้น กระบวนการควบคุม อุณหภูมิและแสงแดด คาดจะลงทุนทำสมาร์ทฟาร์มเพื่อการปลูกกัญชา ก่อนที่จะส่งมอบไปยังบริษัท เพื่อดำเนินการต่อไป
“ความร่วมมือในครั้งนี้จะเกิดผลสัมฤทธิ์ เนื่องจากบริษัทเองมีความเชี่ยว ชาญด้านการผลิตยาเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีบุคลากรแพทย์แผนไทย เภสัชกรแผนไทย เภสัชแผนปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยีชีวภาพ ทำให้มั่นใจงานวิจัยจะ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ”
นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผลิตกัญชาสู่ยารักษาโรค ถือเป็นความสำคัญของการร่วมมือในครั้งนี้ บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตยาเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชา เพื่อขายในประเทศและเพื่อการส่งออก
สำหรับความร่วมมือเรื่องการปลูกกัญชา บริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือในการให้ใช้พื้นที่ของโรงงานเป็นแปลงทดลองปลูกกัญชา ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับการพัฒนาสมุนไพร และกัญชา เพื่อทำยาแผนโบราณ 60 ไร่ โดยอาศัยองค์ความรู้จากต้นแบบของคณะเกษตร และวิทยาลัยแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี โดยมีเป้าหมายผลิตดอกกัญชาแห้งได้ 20 กิโลกรัมต่อเดือนในปีแรก เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบ ในการทำวิจัยยาสมุนไพร และสารสกัดบริสุทธิ์สูง
“ความร่วมมือในครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี ในกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนการผลิตเป็นยาสมุนไพร หากในอนาคตมีการผลิตและวิจัยสกัดออกมาจนไม่มีผลข้างเคียง จะทำให้ประชาชนเข้าถึงยาที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกลง เนื่องจากเป็นยาที่ผลิตใช้เองโดยคนไทย อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้ประเทศไทยขยายตลาดการส่งออกเพื่อหารายได้เข้าประเทศด้วย” นายสิทธิชัย กล่าว
“ผู้ป่วย” แจ้งขอใช้กัญชาทางเน็ต 13-21 พ.ค.นี้
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวในงานแถลงข่าว “การลงทะเบียนการใช้กัญชาทางอินเทอร์ เน็ตเพื่อผู้ป่วยก่อนสิ้นวันนิรโทษกรรม” ว่าการแจ้งครอบครองกัญชาโดยไม่ต้องรับโทษ จะสิ้นสุดตามกฎหมายในวันที่ 21 พ.ค. 2562 ซึ่งเหลืออีกประมาณ 10 วัน หากยังไม่มาแจ้งครอบครองอาจกลายเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว รพ.จุฬาฯ สภากาชาดไทย จึงร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ และจิตอาสาภาคประชาชน พัฒนาระบบลงทะเบียนการใช้กัญชาทางอินเทอร์เน็ตเพื่อผู้ป่วยขึ้น คือ www.cbd-oss.org ซึ่งจะมีการกรอกข้อมูลทั้งบัตรประชาชน รวมถึงใบรับรองแพทย์ โดยข้อมูลหลักฐานต่างๆ จะถูกเก็บเป็นความลับ
หลังจากที่ได้รับข้อมูลลงทะเบียนแล้ว อย. จะพิจารณาถึงปริมาณความต้อง การใช้กัญชา แต่ละคนมีความจำเป็นแค่ไหน และจะจัดกัญชาให้แก่กลุ่มที่จำเป็นต้องใช้ และขาดยาไม่ได้เป็นอันดับต้นๆ ก่อน.
