มทร.-บ.ดังสกัดกัญชา3ปีส่งนอก

เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
มทร.ธัญบุรี-เอกชน จับมือผลักดันกัญชา สกัดเป็นยารักษาโรค คัดหัวกะทิทั้งแพทย์แผนไทยเภสัชกรแผนไทย-เภสัชกรแผนปัจจุบัน-นักวิทยาศาสตร์-นักเทคโนโลยีชีวภาพ เร่งผลิตภายใน 3 ปี ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงทำเป็นยาสมุนไพร ก่อนต่อยอดส่งขายต่างประเทศ ชี้ถ้าไม่มีผลข้างเคียง ประชาชนจะมียาที่มีคุณภาพและราคาถูก เพราะคนไทยผลิตใช้เอง
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) นายวิรัช โหตระโวศยะ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือดำเนินการศึกษาวิจัยกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ระหว่างวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยราชมงคลธัญบุรี กับโรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือการศึกษาและวิจัยกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ที่ครอบคลุมกระบวน การตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ประกอบด้วย ร่วมมือในการพัฒนาสายพันธุ์ การทดลองเพาะปลูกเพื่อคัดสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทย การวิจัยเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านการแพทย์ ไปจนถึงการผลิตเป็นยาสมุนไพร ที่สามารถนำออกจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ให้ประชาชนเข้าถึงได้จริง
นายวิรัช กล่าวว่า ในส่วนของการผลิตกัญชาสู่ยารักษาโรคถือว่าเป็นความสำคัญของการร่วมมือในครั้งนี้ โดยทางมหาวิทยาลัยฯ จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาสายพันธุ์ และหาปัจจัยในการปลูกที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้สารสำคัญทางยา เช่น กระบวนการควบคุมความชื้น กระบวนการควบคุมอุณหภูมิและแสงแดด คาดว่าการลงทุนทำสมาร์ทฟาร์มเพื่อการปลูกกัญชา ก่อนที่จะส่งมอบไปยังบริษัท เพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการลงนามครั้งนี้จะเกิดผลสัมฤทธิ์ เนื่องจากทางบริษัทเองมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตยา เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งมีบุคลากรทางแพทย์แผนไทย เภสัชกรแผนไทย เภสัชกรแผนปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งมีความพร้อมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชา ท้ายสุดหวังว่างานวิจัยครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ ต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
ด้านนายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเจเอสพีฯ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือเรื่องการปลูกกัญชาครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน เพื่อจะได้ดำเนินการต่อในส่วนของการแจ้งกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ คาดว่าจะใช้เวลาในการได้รับอนุญาตในช่วงปลายปี 62 ซึ่งในส่วนของบริษัทได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านเอกสาร รวมถึงพื้นที่ของโรงงานเป็นแปลงทดลองปลูกกัญชา ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับ การพัฒนาสมุนไพรและกัญชา เพื่อทำยาแผนโบราณ 60 ไร่ โดยอาศัยองค์ความรู้จากต้นแบบของคณะเกษตรและวิทยาลัยแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีมา ต่อยอด.

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]