รายงานพิเศษ: เสียงของแม่ แปรเปลี่ยนเป็นแรงสู้ ‘นพดล มีปราง’ นศ.มทร.ธัญบุรี

สยามรัฐ ฉบับวันที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
ชลธิชา ศรีอุบล / มทร.ธัญบุรี
“ตอน ป.2 แม่เอาผมไปฝากไว้ที่วัดดอนสำโรง พระอาจารย์ท่านทำน้ำมันมะพร้าว นำมานวดบรรเทาอาการปวดตามร่างกาย เช่น เข่า หลัง พระอาจารย์ได้สอนนวดให้กับผม ทำให้ผมมีทักษะการนวด ถ้ามีงานที่วัดมีพระอาจารย์มาจากวัดอื่น พระท่านจะให้ผมนวดให้ ท่านก็จะให้ค่าขนมไปโรงเรียน”
น้องนนท์-นายนพดล มีปราง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.ธัญบุรี) หมอนวดแผนโบราณสู้ชีวิต ฝีมือดี ใครได้นวดรับรองหายปวดหายเมื่อย เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการรักในอาชีพนวดแผนโบราณ
นนท์ บอกว่า เป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรีพ่อและแม่เลิกกันตั้งแต่คลอดได้ 2 วัน ไม่เสียใจและน้อยใจที่พ่อทิ้งไป กลับดีใจที่ท่านทำให้ผมเกิดมา อาศัยอยู่กับแม่ แม่เป็นหมอนวดโบราณ ยายเป็นหมอตำแย ตาเป็นหมอเป่ารักษา ป้า 2 คน เป็นหมอนวดแผนโบราณ (จบหลักสูตรนวด ม.รามคำแหง) ส่วนแม่ครูพักลักจำ จากป้า
ตอน ป.2 แม่เอาผมไปฝากไว้ที่วัดดอนสำโรง (แม่เข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ) ด้วยวัดอยู่ติดโรงเรียน พระอาจารย์เลี้ยงและสอนทุกอย่าง ตั้งแต่สอนการผูกผ้า ทำบายศรี จัดดอกไม้ พระอาจารย์ท่านทำน้ำมันมะพร้าว นำมานวดบรรเทาอาการปวดตามร่างกาย เช่นเข่า หลัง พระอาจารย์ได้สอนนวด จึงทำให้มีทักษะการนวด ถ้ามีงานที่วัดมีพระอาจารย์มาจากวัดอื่น ผมจะนวดให้ ท่านให้ค่าขนม ทำให้ผมสามารถนวดได้ ผมจึงรับนวดมาตั้งแต่ป.2 จนถึงปัจจุบัน จึงเลือกเรียนสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ “ผมรับนวดมา ถ้าเราขยัน ทำให้ลูกค้าประทับใจ สามารถโดดเด่น กว่าคนอื่นได้ และอาชีพนี้ไม่ตกงาน และสามารถสร้างคุณค่าให้กับตัวผมได้”
“แม่ของผมเป็นซีสเต้านม” กว่า 20 ปีแรกๆ ทำงานหนักได้ แต่ 3 ปี ที่ผ่านมา แม่ทำงานหนักไม่ได้ งานของแม่คือนวดแผนโบราณชั่วโมงละ50บาท บางวันมีลูกค้าบางวันไม่มีลูกค้า ซึ่งคำที่แม่บอก “ถ้าเงินไม่พอใช้เมื่อไรแม่จะเอาที่บ้านไปกู้แบงก์”แม่จึงไม่อยากให้ผมเรียนต่อเพราะกลัวไม่มีเงินส่ง จึงอยากให้ผมทำงาน ภาพจำที่ไม่เคยลบจากใจผม คือตอนที่แม่พาผมมาสอบสัมภาษณ์ แม่มองหน้าผมและถามว่า “หนูมีปัญญาส่งตัวเองเรียนแล้วใช่ไหม ถึงมาเรียน”หลังจากสัมภาษณ์กลับไป ผมคิดตลอดว่าต้องมาเรียน ต้องเรียนได้
นนท์ว่า ด้วยถูกดูถูกตั้งแต่เด็ก จึงอยากเรียนให้สูงที่สุด จึงต้องทำงานเก็บเงินเพื่อเรียนต่อ เริ่มทำงานเก็บเงินจริงจัง ตอน ม.5 รับงานนวดแผนโบราณ ชั่วโมงละ 50 บาท รับงานวิทยากร และมีโอกาสเข้าอบรมเป็นวิทยากรของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก จึงรับงานวิทยากรอบรมงานต่างๆ โดยมีผู้ใหญ่ให้โอกาสและช่วยเหลือ ได้ชั่วโมงละ60บาท ทั้งรับจ้างทำโต๊ะจีน ผูกผ้า จัดดอกไม้ ได้งานละ 500 บาทรับงานออกแบบป้ายงานต่างๆ ได้งานละ 100 บาท รับทำพอร์ตโฟลิโอ เล่มละ 350 บาท รวมทั้งโชคดีที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับจากทุนองค์กรระหว่างประเทศ 45,000 บาท จากการคัดเลือกจาก 170 คน ทำให้มีเงินจ่ายค่าเทอมตอน ปี 1
ระหว่างเรียน และทำงานเก็บเงิน นนท์ยังชอบทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วย โดยทำกิจกรรมกับสภาเด็กและเยาวชน จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับตำแหน่งประธานสภาเด็กและเยาวชนระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด เป็นคณะกรรมการบริหารสภาเด็กและเยาวชน ทำกิจกรรมสภาเด็กและเยาวชน ร่วมกับกรมพัฒนาสังคม ลงพื้นที่ทุกตำบล อำเภอ และจังหวัดในการจัดกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชน เช่นอบรมให้เด็กและเยาวชน เช่น เรื่องยาเสพติด, การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร จากการทำงานในครั้งนี้ทำให้ได้รับรางวัลเยาวชน ต้นแบบจังหวัดสุพรรณบุรี 2 ปี ได้แก่ เยาวชนต้นแบบด้านเด็กและเยาวชน และเยาวชนต้นแบบด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชน จ.สุพรรณบุรี
นนท์มาเรียนที่ มทร.ธัญบุรี ได้มาเรียนเพิ่มทักษะนวด นวดเพื่อการบำบัด กำหนดค่านวดไทย1-2 ชั่วโมง ราคา100-200 บาทนวดออยล์ 1-2 ชั่วโมง ราคา 300 บาท สำหรับลูกค้านวดประจำ คือ คณบดีและอาจารย์เทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ อาจารย์น่ารักให้ทิปผมบ่อยๆ แต่ผมไม่ได้หวังทิปอะไร ผมคิดเสมอว่า “ได้น้อยแต่จ้างบ่อย” ผมพอใจแบบนี้มากกว่า การนวดของผม คือ การนวดผสมผสาน แบบราชสำนัก และแบบเชลยศักดิ์ โดยไม่ได้มีหน้าร้าน ใช้หอพักเป็นที่นวดลูกค้า หรือออกนวดตามบ้านพัก ที่ทำงาน ตามความสะดวกของลูกค้า จึงต้องแบ่งเวลาทบทวนหนังสือ
สำหรับอาชีพหมอนวด “คนอื่นมองเรายังไงเราไม่รู้ แต่เราทำงานตรงนี้เพื่อเป้าหมายทำไปเพื่ออะไร และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อะไรที่ได้เงินทำหมดถ้าไม่ผิดกฎหมายและไม่ผิดศีลธรรม” ชีวิตผมเกิดมามีแม่คนเดียว ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น จะดูแลแม่ให้ดีที่สุด จนกว่าจะตายจากกัน ผมไม่ค่อยกลับบ้าน เพราะว่าต้องทำงาน จะโทรหาแม่ทุกวันเช้า เย็น และก่อนนอน “วันนี้มีโอกาสคุย ควรคุยกันเยอะๆ”เงินที่เหลือจากการนวดนนท์จะส่งไปให้แม่เดือนละ 3,000 บาท พร้อมว่า สำหรับคนที่สู้ชีวิต ต้องหาเงินเรียน “คุณจงภูมิใจที่ได้ทำงานส่งตนเองเรียน ในวันที่สำเร็จ เราจะสามารถนำมาบอกคนอื่นได้ วันที่ไม่มีอะไร ยังหาทางจนเรียนจบได้”
ทั้งนี้ ในช่วงโควิด-19 รายได้ในการนวดลดลง บวกกับนำเงินเก็บไปซื้อโน้ตบุ๊กเพื่อเอามาเรียนออนไลน์ ตอนนี้ผมเหลือเงินในกระเป๋า 2,000 บาท เดือนนี้จึงขอเลื่อนค่าเช่าลุงที่หอไปก่อน ลุงเจ้าของหอใจดีช่วยอะไรได้ผมจึงอยากช่วย ช่วยลุงเก็บห้อง ล้างห้องน้ำ เมื่อมีลูกค้าย้ายออกจากหอ ลุงจะให้ผมช่วยทำความสะอาดครั้งละ 500 บาท ผมเชื่อเสมอ “ถ้าเราเป็นคนดี ทำงานช่วยเหลือสังคมมาตลอดสักวันจะมีโอกาสดีๆ เข้ามาหาเราเอง”
พร้อมกับขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ที่ให้โอกาสทุกครั้งที่กลับบ้าน ผมกลับไปเยี่ยมพระอาจารย์ทุกครั้ง พระอาจารย์สอนผมเสมอ “ทำทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต ทำให้ดีที่สุด ให้ออกมาดีที่สุด”เป็นสิ่งที่อยู่ในใจผมเสมอมา
เมื่อผมสำเร็จการศึกษาผมอยากเปิดร้าน เป็นผู้ประกอบการเอง และยังทำงานเพื่อสังคมต่อไป ด้วยมีผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมากในประเทศไทย ทำอย่างไรที่จะสอนให้เด็กและเยาวชน มีความรู้ในเรื่องของการนวด ให้ถูกต้องและเก่ง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงทำกายภาพให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนนท์กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับใครที่อยากช่วยเหลือน้องนนท์หมอนวด ป.ตรี สามารถใช้บริการได้ โดยโทรนัดคิวนวดได้ที่ 06-2249-5858

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]