เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
สาวสายเดี่ยว
นักวิจัยจาก มทร.อีสาน จับมือ มทร.ธัญบุรี เปลี่ยน “เถ้าแกลบ”เหลือทิ้ง ให้เป็น “วัสดุก่อสร้างรักษ์โลก” คว้าเหรียญทองจากการประกวดผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมออนไลน์ ระดับนานาชาติ E-NNOVATE 2021
ผศ.ดร.เกียรติสุดา สมนา อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.อีสาน กล่าวว่า จากแนวโน้มบริษัทผู้ประกอบการที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงหยิบความต้องการนี้มาศึกษาหาความเป็นไปได้ที่จะสร้างผลิตภัณฑ์รักษ์โลกขึ้น โดยหารือกับ ผศ.ดร.รัฐพล สมนา อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.อีสาน และ ดร.ประชุม คำพุฒ อาจารย์จาก มทร.ธัญบุรี ร่วมกันวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อตอบโจทย์นี้ โดยมุ่งเป้าจัดหาวัสดุเหลือทิ้งทางธรรมชาติมาใช้ และจากการสำรวจพบว่าวัสดุที่เป็นผลพลอยได้จากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เถ้าถ่านหิน หรือวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตร เช่น เถ้าแกลบ สามารถนำมาสังเคราะห์ร่วมกับสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างได้ จนได้ผลงานวิจัย “การใช้ประโยชน์จากเถ้าแกลบในการผลิตคอนกรีตบล็อกแบบไม่รับน้ำหนัก” และสามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง ด้านงานวิจัยที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม จากเวที E-NNOVATE 2021- International Invention & Innovation Show ณ สาธารณรัฐโปแลนด์ เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
“ผลงานจากการวิจัยมีความทนทานแข็งแรงและมีคุณสมบัติรับกำลังได้เช่นเดียวกับคอนกรีตบล็อกปูนซีเมนต์ในท้องตลาดทั่วไป เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคนำไปใช้เป็นวัสดุทดแทนคอนกรีตบล็อกปูนซีเมนต์แบบเดิมได้เลย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องของคุณภาพและราคา ทั้งยังช่วยกำจัดวัสดุเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม และเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ จึงทำให้ต้นทุนถูกลง แต่ในทางกลับกันสามารถสร้างคุณค่าและมูลค่าของผลิตภัณฑ์ได้มาก”
ผศ.ดร.เกียรติสุดา กล่าวว่า ผลงาน “บล็อกจากเถ้าแกลบ” กับ “เถ้าถ่านหิน” ที่ได้ศึกษาวิจัยนี้ ยังได้รับความสนใจจากผู้ร่วมประกวดท่านอื่นๆ รวมถึงคณะกรรมการงาน E-NNOVATE 2021 เป็นอย่างมาก นับเป็นการแสดงจุดยืนให้กับทั่วโลกได้เห็น ว่าเราให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงยินดีให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง ผู้รับเหมางานก่อสร้าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิจัย และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจจะนำไปผลิตและต่อยอดในอนาคตด้วย.
