ผสานลวดลายสืบสไบมอญ

ข่าวสด (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 03 สิงหาคม พ.ศ. 2564
เกษตรอำเภอเมืองปทุมธานี จัดกระบวนการเรียนรู้ “การเขียนลายผ้าสไบมอญ” ภายใต้โครงการยกระดับศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ/วิสาหกิจชุมชนในการผลิตสินค้าชุมชนกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ให้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านกระแชง โดยมีอาจารย์สุระจิตร แก่นพิมพ์ และผศ.รุ่งทิวา เทพปิตุพงศ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เป็นวิทยากร ที่ศูนย์การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม วัดสำแล จ.ปทุมธานี เมื่อไม่ นานนี้
น.ส.จรรยา ทุกข์จาก เกษตรอำเภอเมืองปทุมธานี เล่าว่า ชาวบ้านตำบลบ้านกระแชงว่างเว้นจากการทำนา ทำสวน รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมเพื่อให้มีรายได้เกิดขึ้น โดยจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านกระแชง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี เข้ามาส่งเสริมให้ความรู้และนำสมาชิกไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่างๆ เช่น กิจกรรมการทำอาหารแปรรูป โดย “หมี่กะทิโบราณ สูตรชุมชนบ้านเตาอิฐ” มีชื่อเสียงเนื่องจากรสชาติอร่อยและมีกรรมวิธีเป็นเอกลักษณ์ ในปี 2559 ทางกลุ่มร่วมกันดำเนินกิจกรรมการปักผ้าสไบมอญ เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์วัฒนธรรมด้านการแต่งกายของชาวไทยเชื้อสายรามัญในจังหวัดปทุมธานี โดยการปักด้วยมือวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านกระแชงอนุรักษ์ภูมิปัญญาผ่านลวดลายต่างๆ
เช่น ลายดอกพิกุล ลายดอกมะเขือ ลายเถาดอกไม้ ลายดาวล้อมเดือน และลวดลายที่คิดขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดปทุมธานีคือลายดอกบัวหลวง ดอกไม้ประจำจังหวัดปทุมธานี ให้เป็นที่รู้จักและสร้าง รายได้ให้สมาชิกรวมทั้งคนในชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนพัฒนาไปเป็นผู้ประกอบกิจการในระดับที่สูงขึ้น มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ในสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และเสริมทักษะการเขียน สไบมอญให้กับทางกลุ่ม จึงเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และฝึกปฏิบัติ
ด้าน อาจารย์สุระจิตร แก่นพิมพ์ วิทยากรและอาจารย์ประจำสาขาวิชานวัตกรรมการออกแบบผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ เล่าว่าผ้าสไบมอญเป็นเครื่องแต่งกายทั้งชายและหญิงที่ใช้ในงานพิธีต่างๆ เช่น งานบุญ งานรื่นเริง และงานศพ เป็นต้น ทางกลุ่มซื้อสไบมอญที่เขียนลายสำเร็จที่วางขายตามท้องตลาดมาปักมือ ลวดลายที่ปักเป็นลวดลายเดิมๆ การมีลวดลายใหม่ๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้สไบมอญของทางกลุ่ม การฝึกปฏิบัติการเขียนลวดลายนี้ประยุกต์ลวดลายผสมผสานโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกัน โดยสามารถนำไปต่อยอดในงานอื่นๆ เช่น เสื้อ ผ้าถุง กระเป๋า
นางมัณฑนา ชูพินิจ อายุ 72 ปี เลขานุการกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านกระแชง เล่าว่าสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ทางกลุ่มยังขาดทักษะและวิธีในการเขียนลวดลาย จึงนำสไบมอญสำเร็จที่มีขายตามท้องตลาดมาปัก 1 ผืนราคา
ประมาณ 200-300 บาท ใช้เวลาปักมือประมาณ 1 สัปดาห์ต่อผืน ลวดลายตามท้องตลาดเป็นลวดลายเดิมๆ จึงอยากเขียนลวดลายเอง ลวดลายที่อาจารย์นำมาสอนเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และมีลวดลายใหม่ๆ สอนเทคนิคการคัดลอกลวดลายลงผ้า ทำให้ประหยัดงบค่าใช้จ่าย ได้ลวดลายที่ต้องการ ในอนาคตจะมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่ม สร้างรายได้ให้ทางกลุ่มต่อไป
นายวีระศักดิ์ กลิ่นชื่น อายุ 65 ปี เล่าว่าสนใจเข้าร่วมโครงการนี้ อยากศึกษาวิธีการทำสไบมอญ ไม่อยากให้วัฒนธรรมโบราณหายไป และจะนำไปต่อยอดในอนาคต
นางวราลักษณ์ ควรพินิจ อายุ 54 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชมรมเพื่อนปาริชาต เล่าว่าสนใจเข้าร่วมโครงการเพื่อนำความรู้ไปต่อยอดทำลวดลายกระเป๋ากระจูด การฝึกเขียนลายสไบมอญในวันนี้ได้เทคนิคการเขียนลวดลาย การฉลุลวดลาย ถ้านำไปใช้เพนต์กระเป๋าจะช่วยลดเวลา ได้ลวดลายใหม่ๆ ทันสมัย ได้รับความสนใจจากลูกค้า
สนใจสไบมอญของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านกระแชง จังหวัดปทุมธานี ติดต่อสอบถามที่คุณหรรษา จั่นเพชร โทร.08-9456-6555

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]