ทั่วไทยน้อมรำลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 5 ธ.ค.วันพ่อแห่งชาติ

แนวหน้า ฉบับวันที่ 5 ธ.ค. 2564
สังฆราชประทานคติธรรม ทำความดีรักษาเบญจศีล นายกฯนำทำบุญตักบาตร อว.จัดดนตรีเทิดพระเกียรติ

รัฐบาลเชิญชวนประชาชน เฝ้าฯรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรม ราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกิจกรรม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าเนื่องในวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2564 เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ในการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงกลาโหม ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชา นุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรม ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เวลา 16.00 น. ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และกิจกรรมที่รัฐบาล ได้จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ แบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานได้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ และต้องดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดกิจกรรมประกอบด้วย

1.การจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 สำหรับภาครัฐ ส่วนกลาง จัดพิธีฯ ณ ท้องสนามหลวง เวลา 07.30 น. โดยนิมนต์ พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมภริยา ส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดพิจารณาจัดพิธีฯ ณ ศาลากลาง จังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลพิจารณาจัดพิธีฯ ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม สำหรับภาคเอกชนและภาคประชาชน สามารถพิจารณาทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ที่วัดใกล้สถานที่ทำงานหรือบ้านพัก

2.การจัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้และพิธีถวายบังคม ในวันที่ 5 ธันวาคม 2564 เฉพาะภาครัฐ ส่วนกลาง จัดพิธีฯ ณ ท้องสนามหลวง เวลา 08.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตร โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มในนามนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี และภริยานายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มในนามคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดพิจารณาจัดพิธีฯ ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาจัดพิธีฯ ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

3.การจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราช สักการะ ทุกภาคส่วนสามารถพิจารณา จัดตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน หรือสถานที่ที่เห็นสมควร ระหว่างวันที่ 1-31 ธันวาคม 2564

4.จัดกิจกรรมจิตอาสา “รู้รักสามัคคี รักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิต” เพื่อถวายพระราชกุศลในวันชาติ วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 และเนื่องในวันรู้รักสามัคคี 4 ธันวาคม 2564 ตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

“รัฐบาลขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ร่วมเฝ้าฯรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในพิธีวางแท่นศิลาฤกษ์ฯ ในวันที่ 5 ธันวาคม และกิจกรรมอื่นๆ ที่ภาครัฐจัดขึ้น โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมความพร้อมใน การอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคม ด้านความปลอดภัย และมาตรการทางด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรองรับประชาชนที่จะมาเข้าร่วมพิธีฯ และดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด”
สังฆราชประทานคติธรรม

เพจสำนักเลขานุการสมเด็จ พระสังฆราช เผยแพร่ข้อความว่า เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2564 ว่า

“อภิลักขิตสมัยคล้ายวันพระบรม ราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย จึงควรที่เราทั้งหลายผู้อาศัยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมเป็นที่พึ่ง จักพึงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญคุณงาม ความดี อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ผู้ทรงเปรียบประดุจบิดาแห่งอาณาประชาราษฎร

ธรรมะประการที่สองในทศพิธราชธรรม ซึ่งพึงหยิบยกมาพิจารณาให้ถี่ถ้วนนั้น ได้แก่ “ศีล” คือการรักษากายและวาจาให้เป็นปรกติ สงบเรียบร้อย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น ทรงมั่นคงในการรักษาพระราชจริยวัตรให้เป็นไปโดยปรกติ อ่อนโยน และงามสง่า ทรงเปี่ยมด้วยพระราชอัธยาศัยฝักใฝ่ไปในทางเอื้อเฟื้อเกื้อกูลประโยชน์สุขของปวงประชา ทรงอุดมด้วยพระราชวาจาสุภาษิต ประกอบด้วยข้อคิดคำสอน อันเป็นประทีปนำทางสังคมไทยให้ดำเนินไปสู่ความผาสุกสวัสดีทุกขณะ ทรงรักษาพระราชสัจจะไว้ได้อย่างมั่นคง ปราศจากมุสาวาท เหตุฉะนี้จึงทรงดำรงพระองค์อยู่อย่างสง่างามด้วย “ศีล” เป็นปรกติในการสั่งสมพระบารมีธรรม

เราทั้งหลายผู้เป็นไทย จึงควรเจริญรอยตามพระราชจริยาในรัชกาลที่ 9 ด้วยการรักษาศีล มีเบญจศีลเป็นอย่างน้อย คอยควบคุมกายและวาจาให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์ อย่าใช้ไปในทางบั่นทอน ทำลาย หรือเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอเราทั้งหลายจงคิด พูด และทำเฉพาะกิจ อันปราศจากโทษ ด้วยปณิธานมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะอำนวยผลเป็นความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองไทย สมพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ

ขออานุภาพแห่งคุณความดีที่สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันบำเพ็ญ จงสำเร็จ เป็นทิพยสุขแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นเครื่องพิทักษ์รักษาคุ้มครองประชาชาติไทยให้ประสบความเกษมสุขสวัสดี มีกำลังพรั่งพร้อมที่จะทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้วัฒนาสถาพรสืบไป ตลอดกาลนาน เทอญ”

อว.จัดมหกรรมดนตรีเทิดพระเกียรติ

วันเดียวกัน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ อว. จะจัดงาน “มหกรรมดนตรี อว.เทิด พระเกียรติ 5 ธันวาคม 2564 ธ สถิตในดวงใจ ไทยนิรันดร์” ทั่วประเทศ โดยจะมีวงดนตรีของนิสิต นักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดของ อว. ทั้งในรูปแบบวงซิมโฟนี ออร์เคสตร้า วงดนตรีสากล วงดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้านมาร่วมบรรเลงพร้อมกันทั่วประเทศ โดยปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรค โควิด-19 อย่างเคร่งครัด

โดยในส่วนกลางที่กรุงเทพ มหานคร อว.มอบให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดระหว่างวันที่ 5-19 ธันวาคม 2564 รวม 15 วันติดต่อกัน โดยจะมีพิธีเปิดคือวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 18.00 น. โดย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. เป็นประธานในพิธี ที่ลานพาร์คพารากอน โดยวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนวันที่ 6 ธันวาคม จะเป็นวงดนตรีจาก ม.สยาม และวันที่ 7 ธันวาคม จะเป็นวงจาก ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว)

ปลัด อว.กล่าวต่อว่า จากนั้นในวันที่ 8-12 ธันวาคม จะไปจัดที่ไอคอนสยาม ริเวอร์พาร์ค แบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา ช่วงแรกเวลา 17.30-18.30 น. และช่วงที่ 2 เวลา 19.00-20.00 น. โดยในวันที่ 8 ธันวาคม จะเป็นวงดนตรีจาก ม.รามคำแหง วันที่ 9 ธันวาคม วงดนตรีจาก มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา วันที่ 10 ธันวาคม วงดนตรีจาก ม.เกษตรศาสตร์ วันที่ 11 ธันวาคม วงดนตรีจาก ม.รังสิต และวันที่ 12 ธันวาคม วงดนตรีจาก ม.ศิลปากร จากนั้นจะขยับมาจัดแสดงที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 13-19 ธันวาคม เวลา 17.00-19.00 น. โดยวันที่ 13 ธันวาคม จะเป็นวงดนตรีจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง วันที่ 14 ธันวาคม จาก มรภ.สวนสุนันทา วันที่ 15 ธันวาคม จาก ม.สยาม วันที่ 16 และ 17 ธันวาคม จากสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา วันที่ 18 ธันวาคม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวันที่ 19 ธันวาคม จาก มทร.ธัญบุรี

“ที่สำคัญในวันที่ 5 ธันวาคม อว.จะจัดกิจกรรมจิตอาสา Clear and Clean บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 10.00 น. โดยจะมีทุกหน่วยงานใน สังกัด อว. มาร่วมทำกิจกรรมที่เกาะราชวิถี เกาะพญาไท เกาะดินแดง และเกาะพหลโยธิน เพื่อเป็นการทำความดีถวาย พ่อหลวง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศ47พื้นที่

ปลัด อว.กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมดนตรี อว.เทิดพระเกียรติในส่วนของต่างจังหวัด จะมีการจัดพร้อมกันทั่วประเทศใน 47 พื้นที่ อาทิ ม.เชียงใหม่ จัดดนตรี อว.เทิดพระเกียรติลมหนาว เวลา 16.30-19.00 น. บริเวณลานน้ำพุศาลาธรรม มช., ม.นเรศวร ขับร้องประสานเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ เวลา 17.00 น. ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, มรภ.นครสวรรค์ แสดงดนตรีพร้อมร่วมจุดเทียนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 เวลา 17.00-19.00 น. ณ ลานกิจกรรมหน้าหอวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ภายใน มรภ.นครสวรรค์, ม.เทคโนโลยี สุรนารี จัดแสดงดนตรีไทย ดนตรีสากลและ ดนตรีพื้นบ้าน ณ อาคารกาญจนาภิเษก มทส., มรภ.ลำปาง ร่วมกับ อว.ส่วนหน้า จ.ลำปาง จัดแสดงดนตรี ณ ข่วงวัฒนธรรม สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.ลำปาง มรภ.ยะลา ร่วมกับ อว.ส่วนหน้า จ.ยะลา จัดแสดงดนตรีพื้นบ้านบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เวลา 16.30-19.30 น. ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา, ม.นราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับ อว.ส่วนหน้า จ.นราธิวาส จัดแสดงดนตรีตั้งแต่เวลา 16.30-19.30 น. ณ สวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เทศบาลเมืองนราธิวาส, ส่วนมรภ.เชียงราย จัดแสดงดนตรีเวลา 17.00-19.00 น. ที่ มรภ.เชียงราย เป็นต้น

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]