นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อผ่านโครงการกองทุนพลิกฟื้นเอสเอ็มอีวงเงิน 1,000 ล้านบาท และการเปิดตัวกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี วงเงิน 2,000 ล้านบาท ในเดือนต.ค.นี้ จะช่วยทำให้เอสเอ็มอีประมาณ 3,000 ราย สามารถฟื้นฟูกิจการ มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น จนสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ได้กว่า 10,000-30,000 ล้านบาท
“หากโครงการนี้เดินหน้าเต็มที่ จะช่วยลดเอ็นพีแอลในระบบได้ไม่ต่ำกว่า 10,000-30,000 ล้านบาท โดยคำนวณจากเอสเอ็มอี ที่มีปัญหาและเข้าร่วมโครงการกับสสว. 3,000 คน ส่วนใหญ่หนี้เฉลี่ย 3 -10 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 กองทุนได้กำหนดเงื่อนไขปล่อยกู้ คือเอสเอ็มอีต้องนำไปใช้หมุนเวียนธุรกิจเท่านั้น เมื่อปล่อยกู้แล้ว สสว.จะติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โครงการนี้พลิกฟื้นเอสเอ็มอีได้อย่างแท้จริง หากเป็นผลสำเร็จ เชื่อว่าจะมีการขยายวงเงินเพิ่มขึ้น”
ส่วนความคืบหน้าโครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ (เทิร์นอะราวด์) ภายใต้งบประมาณ 200 ล้านบาท ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ตั้งเป้าหมายช่วยเหลือผู้ประกอบการ 10,000 รายนั้น สสว. ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และธพว. สรุปมีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการ 13,600 ราย
ด้านนายอุดมศักดิ์ โรจน์วิบูลย์ชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ได้ออกสินเชื่อกรุงไทยใจดีช่วยเอสเอ็มอีวงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง และเป็นเงินลงทุนในกิจการ คิดดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้น 3.75% ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละ 55 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี แล้วแต่กรณี คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือมีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ได้ประมาณ 500 ราย.
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2559
C-160903004053