สยามรัฐ ฉบับวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ผู้แทนจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.)ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)และที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.) เกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ประจำปีการศึกษา 2561 เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ข้อสรุปเบื้องต้น เพื่อนำเสนอ รมว.ศึกษาธิการในปลายเดือน พ.ย.นี้ว่า จะคัดเลือกเด็ก
ในระบบเดียวกัน โดยยึดหลักการให้เด็กอยู่ในห้องเรียนจนจบการศึกษา ไม่เกิดปัญหาวิ่งรอกสอบ ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครองเด็กมีสิทธิเลือกเรียนตามที่ต้องการ
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยก็มีสิทธิเลือกเด็กได้เช่นกัน ส่วนกระบวนการคัดเลือกนั้นมีขั้นตอนดำเนินการ ดังนี้ 1.การรับระบบโควตา ไม่ใช้การสอบ อาทิ โควตา นักกีฬาโอลิมปิกวิชาการ หรือพิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงาน เป็นต้น เริ่มดำเนินการช่วงเดือนต.ค.2560 เมื่อคัดเลือกเด็กได้แล้วมหาวิทยาลัย ต้องส่งรายชื่อให้ ทปอ.ทำการตัดสิทธิในระบบพรี-เคลียริ่ง เฮาส์ภายในเดือน ธ.ค.
2.การคัดเลือกโดยใช้ข้อสอบกลางจัดสอบทั้งการสอบความถนัดทั่วไป(GAT) การสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT) การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) การสอบวิชาสามัญ 9 วิชา และหากคณะ/สาขาใด ต้องการสอบวิชาเฉพาะก็ให้จัดสอบในช่วงเดียวกัน รวมถึงกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย(กสพท.) ที่จัดสอบวิชาเฉพาะของกลุ่มแพทย์เองด้วย โดยจัดสอบช่วงต้นเดือน มี.ค. ถึงกลางเดือนเม.ย. และเข้าสู่ระบบเคลียริ่งเฮาส์ ครั้งที่1 ต้นเดือน พ.ค. ทั้งนี้ กลุ่ม มรภ.และมทร.จะร่วมคัดเลือกนักศึกษา จนถึงกระบวนการเคลียริ่งเฮาส์ ครั้งที่ 1 เท่านั้น จากนั้นจะไปดำเนินการรับตรงเอง ส่วน ทปอ.จะดำเนินการเคลียริ่งเฮาส์ ครั้งที่ 2 ช่วงเดือน มิ.ย.
และ 3.ถ้ามหาวิทยาลัย ยังไม่สามารถคัดเลือกเด็กได้ตามจำนวนที่ต้องการ สามารถเปิดรับตรงได้เอง แต่ต้องไม่มีการไปจัดสอบในเดือน ก.ค.ทั้งนี้ การสมัครระบบโควตา นักเรียนสามารถเลือกสมัครกี่แห่งก็ได้ แต่จะให้สิทธิเลือกเข้าเรียน เพียงสิทธิเดียวหากเลือกแล้วไม่มีสิทธิสมัครครั้งต่อไป
ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือว่าขณะนี้มีโรงเรียนที่สอน English Program (EP)มากขึ้น ซึ่งมีการเรียกร้องให้ทำข้อสอบที่ใช้ในการ เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเป็นภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับภาษาไทย เพื่อให้มีความเป็นสากล และเด็กที่เรียน EP จะได้อ่านข้อสอบเข้าใจและทำข้อสอบได้ ส่วนจะเริ่มเมื่อไรนั้นต้องมีการหารือกับผู้เกี่ยวข้องก่อน