วัยโจ๋ มทร.ธัญบุรี ปั้นสูตรอาหารเพิ่มมูลค่าข้าวเหนียวดำ รวมพลังซับน้ำตาชาวนาไทย

          “ข้าว”
พืชเศรษฐกิจ อาชีพหลักของเกษตรกรไทย
จากราคาข้าวที่กำลังตกต่ำสุดๆอยู่ในขณะนี้ บอกเลยว่าปวดใจแทนชาวนาจริงๆ
นี่ขนาด “นายว้าก” เป็นเพียงผู้บริโภค ถ้าต้องเป็นกระดูกสันหลังของชาติที่ลงทั้งทุนทั้งแรง แถมต้องทนลำบากแบบ “หลังสู้ ฟ้าหน้าสู้ดิน” แล้วราคาข้าวยังร่วงไม่หยุดแบบนี้ สงสัยคงต้องชอกช้ำ น้ำตาตกในเป็นแน่


สถานการณ์อันเลวร้ายราคาข้าวที่ดิ่งเหวจนน่าใจหายแบบนี้ ทำให้ชาวนาทุกพื้นที่เรียกร้องให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางช่วยเหลือเยียวยาอย่างเร่งด่วน
และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการต่อลมหายใจให้กับชาวนา คณะอาจารย์และนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จึงร่วมด้วยช่วยกันคนละไม้คนละมือคิดหาช่องทางในการเพิ่มมูลค่าข้าวให้กับชาวนา ด้วยการนำข้าวเหนียวดำมาแปรรูปเป็น 2 เมนู ได้แก่ ข้าวเหนียวดำตัด และไอศกรีมข้าวเหนียวดำ เพื่อให้ชาวนาได้นำไปใช้ประโยชน์ เพิ่มมูลค่าข้าวเหนียวดำที่มีอยู่
แนวคิดดีๆแบบนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร “นายว้าก” ไม่พลาดที่จะไปเจ๊าะแจ๊ะถามไถ่ อาจารย์พรพาชื่น ชูเชิด อาจารย์สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ ซึ่งยิ้มก่อนสาธยายว่า “จากราคาข้าวที่ตกต่ำ จึงคิดหาวิธีเพื่อช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ด้วยการนำข้าวเหนียวดำมาแปรรูปเป็นอาหารชนิดต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าของข้าวเหนียวดำ และเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่รักสุขภาพ สำหรับข้าวเหนียวดำจะปลูกมากทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั่วๆไปจะนำข้าวเหนียว ดำมาแปรรูปเป็นของหวาน จากการวิจัยข้าวเหนียว ดำมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก และในแต่ละขั้นตอนจะให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตัวเอง”
มาฟังเสียงของบรรดาวัยโจ๋เจ้าของไอเดียเจ๋งๆ ในการแปรรูปข้าวเหนียวดำกันบ้าง เริ่มที่ “น้ำ” ณิชกานต์ แดงอิ่ม เจ้าของเมนูข้าวเหนียวดำตัด บอกว่า “ด้วยสรรพคุณของข้าวเหนียวดำที่มีมากมาย ดังนั้น จึงได้คิดนำมาพัฒนาและแปรรูปเป็นขนมข้าวเหนียวดำตัด สำหรับส่วนผสมของข้าวเหนียวดำตัดนี้จะทำเป็นขนมได้จำนวน 8 ชิ้นเล็ก กว้าง 2 ซม. ยาว 8 ซม. ส่วนผสมประกอบด้วย ข้าวเหนียวดำพอง 1? ถ้วย คอร์นเฟลก ? ถ้วย น้ำผึ้ง ? ถ้วย เนย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ กลิ่นวานิลลา ? ช้อนชา เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ? ถ้วย ส้มจี๊ดอบแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.นำข้าวเหนียวดำพอง คอร์นเฟลก เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และส้มจี๊ดอบแห้ง มาคั่วในกระทะจนได้กลิ่นหอม จากนั้นนำขึ้นพักไว้ 2.ตั้งไฟนำเนยมาละลายบนกระทะ เติมน้ำผึ้ง น้ำตาล กลิ่นวานิลลา น้ำให้ความร้อนจนกระทั่งส่วนผสมเดือดอุณหูมิอยู่ที่ประมาณ 120-126  c 3.นำข้าวเหนียวดำพอง คอร์นเฟลกเม็ดมะม่วงหิมพานต์และส้มจี๊ดอบแห้งใส่ลงตามไปในกระทะ คนให้เข้ากับส่วนผสมน้ำตาลจนทั่ว 4.เทส่วน ผสมทั้งหมดลงบนกระดาษไขรอง อบ ปาดให้เสมอกันเป็นสี่เหลี่ยม ให้หนาประมาณ ? นิ้ว หรือ ? นิ้ว แล้วนำกระดาษอีกแผ่นวางทับไป ทิ้งไว้เย็นประมาณ 5 นาที ตัดให้เป็นแท่งถ้ามีเตาอบให้อบที่อุณหภูมิ 200 c 5-7 นาที เพราะว่าการอบจะทำให้ขนมกรอบอยู่ได้นานสิ่งที่คิดขึ้นมานี้อยากช่วยซับน้ำตาชาวนาไทย เพราะกว่าจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ดต้องลงทุนลงแรงเยอะมาก”
ขณะที่สองสาวเพื่อนซี้เจ้าของสูตรไอศกรีมข้าวเหนียวดำ “เจา” พัทยา ไตรอุดม และ “อ้อม” วิภาวงค์ แซ่ซ่ง ร่วมแชร์ไอเดียว่า “ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การแปรรูปไอศกรีมเป็นอีกช่องทางที่นำมาสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ข้าวเป็นพืชหลักของประเทศ เมื่อราคาข้าวตกต่ำ จึงอยากนำข้าวมาแปรรูปเป็นอาหาร ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ข้าวเหนียวดำมีสรรพคุณทางยาและมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จึงได้คิดค้นสูตรไอศกรีมข้าวเหนียวดำขึ้นมา ส่วนผสมประกอบด้วย ข้าวเหนียวดำ ? ถ้วย น้ำเปล่าสำหรับต้มข้าว 3 ? ถ้วย ผงเจลาติน 7 กรัม น้ำเปล่าสำหรับบานเจลาติน 2 ? ช้อนโต๊ะ วิปปิ้งครีม/ครีมสด 1 ? ถ้วย กลิ่นใบเตยหรือใบเตยสด ? ถ้วย น้ำตาลทราย ? ถ้วย เกลือป่น ? ช้อนชา กะทิ 1 ? ถ้วย มะพร้าวอ่อน (หั่นเป็นเส้น) ? ถ้วย น้ำแข็ง 2-3 กิโลกรัม เกลือ 500 กรัม สำหรับขั้นตอนการทำไอศกรีม 1.แช่ข้าวเหนียวดำด้วยน้ำเปล่า 1 ถ้วย เป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง (หรือค้างคืน) 2.ต้มข้าวเหนียว ดำด้วยไฟแรง หมั่นคนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ข้าวติดหม้อ เติมน้ำเปล่าเพิ่มอีก 2 ? ถ้วย (360 กรัม) ต้มจนข้าวเหนียวสุกพอง (หากต้องการเคี้ยวข้าวหนึบๆ เวลาทานไอศกรีมก็ต้มพอสุก) ปิดไฟยกลงจากเตา พักให้เย็น 3.ใส่น้ำตาล ใบเตย เกลือ ลงผสมกับวิปปิ้งครีม คนเข้ากันจนน้ำตาลละลาย ใส่กะทิ 4.ใส่ข้าวเหนียวดำและมะพร้าวอ่อนลงผสมกับครีม คนให้เข้ากัน 5.เทใส่โถปั่นไอศกรีม ปั่นประมาณ 15 นาที หรือจนเนื้อเนียนฟูได้ที่ ใส่กล่องที่มีฝาปิดสนิทแล้วนำไปแช่เย็นก็เป็นอันว่าเสร็จ”
สำหรับชาวนา หรือประชาชนที่ต้องการแปรรูปข้าวเหนียวดำทั้ง 2 เมนูนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อาจารย์พรพาชื่น ชูเชิด โทร. 09–5797–5858
เห็นอาจารย์และนักศึกษากลุ่มนี้คิดหาวิธีช่วย เหลือชาวนาในช่วงที่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบากแบบนี้แล้ว “นายว้าก” ต้องขอปรบมือเป็นกำลังใจให้ดังๆ
นี่แหละคนไทย ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน…!!!
นายว้าก

c-161127009039-2_page_1c-161127009039-2_page_2c-161127009039-2_page_3

c-161127009039-1

c-161127009039-2

c-161127009039-3

แสดงความคิดเห็น

[fbcomments count="off" num="5"]