เพื่อสานต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม้ประดับแห้ง ภายใต้ตราสินค้า “บุหงาโครงการหลวง” และร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย มูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งเกิดจากพระราชดำริในพระองค์ ทรงให้นำดอกไม้ กิ่งไม้ ที่ร่วงโรยในโครงการหลวงต่าง ๆ มาประดิษฐ์ทำดอกไม้แห้ง สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัตถุดิบเหลือใช้ ร่วมกับ ภาครัฐและเอกชน พร้อมนักจัดดอกไม้มืออาชีพ จัดทำประติมากรรมจากดอกไม้แห้งในงาน “ดอกไม้แห่งราชัน บุหงาโครงการหลวง” โดย ดร.ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ผอ.ฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง เปิดงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ชั้นเอ็ม ฮอลล์ออฟเฟรม ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมนำดอกไม้แห้งดอกสุดท้ายที่ประดิษฐ์จากเกสรดอกบัวตองและเมล็ดประดู่ มาปักเป็นดอกสุดท้ายลำดับที่ 9,999 บริเวณหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงความอาลัย ซึ่งเปิดให้ประชาชนร่วมกิจกรรมดังกล่าวเมื่อวันที่ 3-5 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ดร.ณรงค์ชัย กล่าวว่า ไม้ประดับแห้งเป็นอีกหนึ่งผลงานของโครงการหลวง ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทราบมาก่อน เพราะอาจนึกถึงพืชผัก ผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับมากกว่า แต่ไม้ประดับแห้งนี้เป็นพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงให้นำทรัพยากรอย่างดอกไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ที่ร่วงโรยตามธรรมชาติมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้แห้ง ผ่านการฟอกสีที่เป็นมิตรกับธรรมชาติให้เกิดความสวยงาม ทั้งนี้นอกจากช่วยลดการกำจัดทรัพยากรที่เหลือใช้แล้ว ยังช่วยลดการก่อเกิดไฟป่าที่หากมีกิ่งไม้ ใบไม้แห้งทับถมจำนวนมากอาจเป็นสาเหตุการเกิดไฟป่าได้
ในงานแบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย โซนที่ 1 รวมใจภักดิ์ถวายอาลัย เปิดให้ประชาชนร่วมปักดอกไม้แสดงความอาลัยจำนวน 9,999 ดอก โซนที่ 2 สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พื้นที่การจัดแสดงดอกไม้จากความคิดสร้างสรรค์และออกแบบตกแต่งสวยงาม 12 ชิ้น โดยผู้เชี่ยวชาญการจัดดอกไม้ชาวไทย สถาบันการศึกษา สมาคม องค์กรต่าง ๆ บนพื้นที่ 2×3 เมตร โดยใช้ผลิตภัณฑ์โครงการบุหงาโครงการหลวงทั้งสิ้น โซนที่ 3 สืบสานพระราชดำริ นิทรรศการผลิตภัณฑ์ไม้ประดับแห้ง จากอดีตถึงปัจจุบัน รวมถึงที่มาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของมูลนิธิ ที่เน้นมาตรฐานการผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติและยกระดับคุณภาพชีวิตคนในท้องถิ่น และโซนที่ 4 ฝากไว้ในแผ่นดิน การออกร้านโครงการที่นำสินค้า อาทิ ดอกไม้แห้ง บุหงาดอกไม้หอม สเปรย์น้ำหอมปรับอากาศ และหมวดประดับดอกไม้แห้งมาจำหน่าย รายได้ทั้งหมดมอบให้มูลนิธิโครงการหลวง เพื่อนำกลับไปช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป ซึ่งเปิดให้เข้าชมระหว่างนี้ถึงวันที่ 11 ธ.ค. 2559
หนึ่งในผู้จัดแสดงดอกไม้ ม.ล.อุสสินีพร จักรพันธุ์ ประธานชมรมผู้บริหารงานแม่บ้านแห่งประเทศไทย กับผลงานชื่อ “น้ำพระทัยองค์ราชัน” กล่าวว่า ด้วยนึกถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงสร้างประโยชน์ให้แก่ชาวไทย จึงคิดถึงโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ จึงนำดอกไม้แห้งมาทำเป็นกังหันชัยพัฒนา โครงการฝนหลวง และเศรษฐกิจพอเพียง ที่แบ่งพื้นที่ในการปลูกข้าว ทำสวน เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ โดยนำวัตถุดิบต่างชนิด อาทิ ฝักบัวแห้ง ดอกหญ้าแห้ง และใบสัก มาประดับ
ด้าน ผศ.วินัย ตาระเวช คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กับผลงานชื่อ “พระมหากรุณาธิคุณแผ่ไพศาล” เผยว่า ได้แรงบันดาลใจจากพระองค์ทรงมีน้ำพระทัยต่อสัตว์เลี้ยง จึงนำดอกไม้แห้งคือดอกอคิเลีย ลักษณะคล้ายขนสัตว์มากที่สุด ฉีกกลีบดอกทีละกลีบติดกาวลงบนโครงที่ขึ้นไว้ทั้งรูปช้างพระเศวตอดุลยเดชพาหนะ สุนัขทรงเลี้ยงคุณทองแดง แมวทรงเลี้ยงคุณติโต และกระต่าย ซึ่งเป็นสัตว์ประจำนักษัตรของพระองค์ท่าน ก่อนนำสีมาระบายให้ดูสมจริง เป็นการฝึกความเพียรและความอดทนที่ติดกลีบดอกอคิเลียเล็ก ๆ ทีละกลีบ เสมือนดั่งที่พระองค์ทรงอดทนและมุ่งมั่นเพียรพยายามแก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อประชาชน.
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 08 ธันวาคม พ.ศ. 2559