โครงการหลวงนับว่าเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสนพระราชหฤทัยส่งเสริมให้เกิดอาชีพด้านการเกษตร บุหงาโครงการหลวงเป็นอีกดอกผลแห่งความสำเร็จจากโครงการของพ่อ “ดอกไม้แห้ง” จากบุหงาโครงการหลวงถูกนำมาจัดเป็นประติมากรรมดอกไม้อย่างสวยงามในงาน “ดอกไม้แห่งราชัน บุหงาโครงการหลวง” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ด้วยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวง ภาครัฐ ภาคเอกชน นักจัดดอกไม้จากหลายสถาบัน พร้อมใจกันนำดอกไม้จากโครงการหลวง ไม่ว่าจะเป็นเฟิร์น ดาวอังคาร เพกา ฯลฯ นำมาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช
ณรงค์ชัย พิพัฒน์ธนวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด มูลนิธิโครงการหลวง กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงรักและห่วงใยคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทย นำมาสู่การดำเนินโครงการหลวง มีการส่งเสริมให้เกิดอาชีพด้านการเกษตร เกิดเป็นโครงการหลวงที่มีพืชผักเป็นผลผลิตสำคัญ สร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ ไม่เพียงเท่านี้ ในโครงการหลวงทุกแห่งยังได้มีดอกไม้ที่รวมกันแล้วมากกว่าร้อยชนิด ทางโครงการมีความตั้งใจอยากสร้างดอกไม้เหล่านั้นให้เกิดคุณค่ามากขึ้น โดยเฉพาะดอกไม้ที่แห้งเหี่ยวไป ด้วยการส่งเสริมชุมชน เมื่อมีเวลาว่างให้หาเศษดอกไม้ ใบไม้ในพื้นที่มาให้ทางโครงการ และโครงการได้ส่งดอกไม้ให้นักออกแบบรังสรรค์ผลงานขึ้นมาแปรรูปในลักษณะต่างๆ รวมทั้งจัดเป็นงานประติมากรรมขนาดใหญ่ สามารถเก็บไว้ได้นาน ทั้งยังเป็นการช่วยสานต่อในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม้ประดับแห้ง ทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ทำเป็นช่อดอกไม้ใหม่ ของชำร่วย ฯลฯ ภายใต้สินค้า “บุหงาโครงการหลวง มูลนิธิโครงการหลวง” ที่ใช้ชื่อสินค้าว่าบุหงา เพราะเป็นชื่อดอกไม้ที่มีความไพเราะ จึงให้เป็นชื่อเรียกผลิตภัณฑ์ดอกไม้แห้งของโครงการหลวง
“ดอกไม้ส่วนใหญ่นำมาจากภาคเหนือ อันที่เป็นที่ตั้งของโครงการหลวง 39 โครงการ รวมโครงการหลวงแห่งใหม่ที่บ้านเลอตอ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ การทำผลิตภัณฑ์ไม่ได้มุ่งแสวงหากำไร แต่อยากให้เกิดการบูรณาการ ส่งเสริมชุมชนแปรรูปเศษวัชพืชส่งมาให้โครงการ โดยช่วงวันที่ 3-5 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้เปิดให้พสกนิกรชาวไทยมีส่วนร่วมจัดทำประติมากรรมที่สยามพารากอนด้วย โดยเชิญชวนปักดอกไม้แสดงความอาลัยหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณพื้นที่ส่วนกลางของงานนี้ ขณะนี้มีจำนวนดอกไม้ที่มาปักมากกว่า 9,999 ดอกแล้ว แสดงว่าประชาชนให้ความสนใจมาก” ณรงค์ชัยกล่าว
ส่วนพื้นที่ของการจัดแสดงดอกไม้แห้ง นับเป็นงานสำคัญที่ได้รวมนักจัดดอกไม้ชาวไทยจำนวนมากมาร่วมทุ่มเทและสร้างสรรค์ชิ้นงาน ด้วยการรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยผ่านประติมากรรมดอกไม้แห้งขนาดใหญ่ ทั้งแบบสากลและศิลปะไทย
สำหรับผลงาน นักออกแบบได้สร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดที่แตกต่างกัน เช่น ผลงานของ อนุสรณ์ ใจทน อาจารย์คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ม.เทค โนโลยีราชมงคล พระนคร ประดิษฐ์ผลงานชื่อ “มาลัยแห่งความจงรักภักดี” นำดอกไม้แห้งมาสื่อความหมายแสดงความอาลัยผ่านประติมากรรมพวงมาลัย
อภิรัติ โสพัศ ผู้ร่วมสร้างงานมาลัยแสนอาลัย กล่าวว่า อาจารย์อนุสรณ์เป็นผู้ออกแบบพวงมาลัยด้วยการใช้ใบลานซึ่งมีลักษณะยาว มาสานถักทอให้เป็นรูปทรงพวงมาลัย แสดงถึงสายใยรักที่เรามีต่อพระองค์ เปรียบเสมือนเป็นการรวมใจของประชาชน แล้วก็ใช้ดอกโสนสอดแทรกในตัวพวงมาลัยด้วย ใช้ดอกประดู่ทำเป็นส่วนอุบะ เพราะว่าประดู่เป็นไม้ยืนต้น เป็นเหมือนต้นไม้ของพ่อ ผู้เป็นร่มเงาให้กับเราทุกคน มีความหมายที่ดี จึงนำมาผสมผสานร่วมด้วย
ด้าน วินัย ตาระเวช อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี ผู้ออกแบบผลงานชื่อ “พระมหากรุณาธิคุณเผื่อแผ่ไพศาล” เผยว่า ผลงานแสดงถึงพระเมตตาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อสัตว์ ถ้ากล่าวถึงสัตว์ทรงเลี้ยงของพระองค์แล้ว เรามักจะนึกถึงคุณทองแดงเป็นอันดับแรก น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพระองค์ยังทรงเลี้ยงคุณติโต แมวเพศผู้พันธุ์วิเชียรมาศ ทรงเลี้ยงขณะประทับอยู่ที่ตำหนักเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หากเคยอ่านหนังสือพระราชนิพนธ์นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ กล่าวถึงคุณติโตเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ พระองค์ทรงเลี้ยงพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ หรือพลายแก้ว รวมถึงคุณทองแดง สุนัขที่เป็นที่รู้จักกันดี
“สัตว์เลี้ยงทั้งสามที่พระ องค์ทรงเลี้ยง เรานำมาสร้างสรรค์ขึ้นรูปด้วยวัสดุโฟม ก่อนจะใช้กลีบดอกอคิเลียแห้งและดอกเพกา สาคูทิพย์ ดาวอังคารใหญ่ เฟิร์น ฯลฯ มาติดทีละกลีบ ไล่สีอย่างประณีต ดูมีชีวิตชีวาขึ้น อีกทั้งได้สร้างผลงานบุปผาอาลัย
น้อมถวายเป็นพานพุ่มรูปดอกบัวสูง 3.89 เมตร ฐานจัดเป็นกลีบ บัวคว่ำ บัวหงายเรียงชิดติดกัน ตรงกลางประดับรูปพระบรมสาทิสลักษณ์พระองค์วาดลงบนกลีบเพกา ยอดพุ่มประดิษฐ์เป็นบัวคว่ำ บัวหงายเรียงชิดติดกันเหมือนกระต่าย สื่อนักษัตรประจำปีพระบรมราชสมภพ หัวใจสี่ดวงแทนความรักประชาชน
ผลงานแต่ละโซนมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลงาน เฟิร์น, ผลงานดวงประทีปมาลา น้อมถวายบูชาอาลัยพ่อหลวง, ผลงานน้ำพระทัยองค์ราชัน, ผลงานพรรณนภา, ผลงานประพาสต้นบนดอย ฯลฯ รวมถึงมีนิทรรศการผลิตภัณฑ์ไม้ประดับแห้งภายใต้ตราสินค้าบุหงาโครงการหลวง มูลนิธิโครงการหลวง และการออก
ร้านของโครงการหลวงเพื่อแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สนใจชมงาน “ดอกไม้แห่งราชัน บุหงาโครงการหลวง” จัดแสดงถึงวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ที่บริเวณฮอลล์ออฟเฟม ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน.
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559