กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560
สาลินีย์ ทับพิลา
โจทย์วัสดุเหลือใช้จากโรงงานรองเท้าแตะส่งต่อให้ มทร.ธัญบุรี ต่อยอดชุดงาน วิจัยวัสดุก่อสร้างมวลเบา ตอบโจทย์อุตสาหกรรม ชูจุดเด่นต้นทุนต่ำ คุณภาพดีและใช้เวลาน้อย
นายประชุม คำพุฒ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เลือกพัฒนาคอนกรีตบล็อกมวลเบาโดยใช้เศษพลาสติกจากรองเท้าเป็นวัสดุหลัก ทำให้คอนกรีตบล็อกที่ได้มีน้ำหนักเบา ต้นทุนถูก แต่เมื่อจบงานก็ไม่มีการต่อยอด ในฐานะนักวิจัยจึงอยากจะผลักดันให้ออกสู่เชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง จึงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจรตอบดีมานด์อุตฯ ก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างมวลเบาสำหรับอาคารเขียวจากเศษพลาสติกเหลือทิ้งเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีพื้นฐาน นำเศษพลาสติกมาทำเป็นมวลรวม ให้คอนกรีตบล็อกมีน้ำหนักเบาและยังมีคุณสมบัติต่างๆ ที่เทียบเท่าหรือดีกว่าคอนกรีตบล็อกทั่วไป และใกล้เคียงกับอิฐบล็อกมวลเบา ต่อมาอยากให้ราคาถูกลงจึงประยุกต์นำเถ้าแกลบมาเป็นส่วนผสมเพื่อทดแทนการใช้ปูนซีเมนต์บางส่วน
นายประชุม กล่าวว่า มีความใกล้เคียงกับเทคนิคน็อคดาวน์ เพราะเป็นวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูปที่มีน้ำหนักเบา จึงช่วยลดต้นทุนการขนส่งและต้นทุนแรงงานได้
“ผมมองว่า มีโอกาสที่จะต่อยอดเชิงพาณิชย์มากทั้งในแง่การผลิตที่ใช้เศษพลาสติก เพราะโรงงานรองเท้ามีมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมก่อสร้างก็ต้องการวัสดุที่สะดวก ใช้คนน้อยลง เพื่อลดปัญหาแรงงานหายาก” นักวิจัยกล่าวว่า มีการร่วมมือกับผู้ประกอบการก่อสร้างขนาดเล็กในการต่อยอดนำงานวิจัยไปใช้แล้ว
สำหรับอนาคต เขามีแผนจะเพิ่มฟังก์ชันตามที่ลูกค้าต้องการ เช่น การใส่เม็ดสีลงไปเพื่อที่จะไม่ต้องทาสีเพิ่ม หรือ ใส่ฟังก์ชันกันความร้อน ซึ่งอาจจะเพิ่มต้นทุนการผลิตแต่สามารถลดต้นทุนด้านอื่นแทน “เราทำชุดผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจากการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมก่อสร้างในขณะเดียวกันก็นำของเหลือทิ้งหรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในราคาที่เหมาะสมเพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และจะเดินหน้าพัฒนาต่อไปจนครบสำหรับการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายนอกและภายใน”ก่อสร้างเขียวครบวงจร
นอกจากวัสดุก่อสร้างมวลเบา นายประชุมยังพัฒนานวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงจุดเด่นของการใช้วัสดุธรรมชาติมาเสริม หรือ ใช้เทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อน เพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่มทั้งรายเล็กและรายใหญ่
“ในช่วงที่บ้านดินได้รับความนิยม เราก็พัฒนาแผ่นผนังดินอัดสำเร็จรูป ที่มีจุดเด่นคือ ต้านทานการชะล้างสูง เนื่องจากบ้านดินมักเจอปัญหาที่ไม่ทนน้ำ” นักวิจัยใช้ก้อนดินเหนียวแบบดั้งเดิมมาพัฒนาต่อยอดผสมกับวัตถุดิบธรรมชาติอย่างน้ำยางธรมชาติ และทำการอัดแน่นด้วยกระบวนการพิเศษ ทำให้ไม่ละลายน้ำ ทนแรงน้ำกัดเซาะและการยึดเกาะของโมเลกุล ดี ง่ายต่อการขนส่ง ที่สำคัญ ไม่เปลี่ยนคุณสมบัติของดิน จึงตอบโจทย์บ้านดิน สำหรับพักอาศัยรวมถึงบ้านพักอากาศ หรือรีสอร์ทที่เน้นเชิงอนุรักษ์และประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ ยังมีโคโค่กรีน วัสดุก่อสร้างสีเขียวจากผลพลอยได้ของโรงงานแปรรูปมะพร้าว ไม่ว่าจะเป็น เถ้ากะลา เส้นใยและกากมะพร้าว รวมถึงกล่องยูเอชทีมาเป็น ส่วนผสมสำคัญผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างต้นทุนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
ขณะที่สปีดวอลล์ ผนังมวลเบาสำเร็จรูป ก่อสร้างเร็ว มีจุดเด่นที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดนั่นคือ ความหนาแน่นต่ำ แต่ยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบาเพียง 50% ของ ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องจักร ทั้งยังทำหน้าที่เป็นฉนวนกันร้อนได้อีกด้วย
