อาจารย์ทัศนศิลป์ มทร.ธัญบุรี วาดจิตรกรรมร่วมสมัยปริศนาธรรม 3 มิติ เสมือนจริงแห่งแรกไว้ภายในเจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดปัญญานันทาราม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่ละภาพสอดแทรกหลัก คำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องอริยสัจ4 – ความจริงอันประเสริฐซึ่งผ่านการตรวจตีความอย่างละเอียด จากหลวงพ่อปัญญานันทมุนี(ส.ณ.สุภโร)เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ และพระมหาเฉลิมปิยทสฺสี เจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม และพร้อมเปิดให้พุทธศาสนิกชน เข้าชมศึกษาธรรม
โดย รศ.ดร.สมพร ธุรี อาจารย์ภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.ธัญบุรี) เปิดเผยถึงภาพปริศนาธรรมสามมิติ ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย กับทางวัดปัญญานันทาราม ในการบริการวิชาการสังคม และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งภาพวาดทั้งหมดมีจำนวน29 ภาพติดตั้งไว้บริเวณฝาผนังชั้นล่างห้อง “ปัญญา” เจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดปัญญานันทาราม
…การสร้างผลงานภาพปริศนาธรรม สามมิตินี้ เป็นประสบการณ์เรียนรู้ร่วมกันทั้งในส่วนของบุคลากรผู้สอนและนักศึกษา รวมถึงการค้นคว้าข้อมูลจากจิตรกรรมฝาผนังในสมัยศิลปะรัตนโกสินทร์ และภาพปริศนาธรรมในโรงมหรสพทางวิญญาณ สวนโมกขพลารามของหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ นำมาสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยดังกล่าวโดยภาพปริศนาธรรมสามมิติจะสอดแทรกหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาในเรื่องอริยสัจ 4 เพราะการที่จะเข้าถึง “ปัญญา”เพื่อ “รู้เท่าทันความทุกข์” ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของโลก จะต้องเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องอริยสัจ4 ความจริงอันประเสริฐ คือ ทุกข์ สมุทัยนิโรธ และ มรรค ซึ่งผู้ชมสามารถสัมผัสผลงานศิลปะดังกล่าวนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดประสบการณ์ ร่วมไปภาพอย่างเพลิดเพลิน ชวนให้คิดและ ตระหนักถึงหลักธรรมคำสอนอย่างเพลิดเพลิน สนุกสนาน และไม่น่าเบื่อ
“ภาพปริศนาธรรมสามมิติทั้งหมดเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ได้รับความอนุเคราะห์ตรวจตีความก่อนที่จะวาดและติดตั้งดำเนินการจริง จากหลวงพ่อปัญญานันทมุนี (ส.ณ. สุภโร) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ และพระมหาเฉลิม ปิยทสฺสี เจ้าอาวาสวัดปัญญานันทารามจึงทำให้อาจารย์และนักศึกษา สามารถถ่ายทอดเรื่องราวอริยสัจ 4 ได้อย่างลงตัว กลมกลืน และสอดคล้องกับบรรยากาศของวัดซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้เกิดปัญญา
…ภาพทั้งหมดใช้สีน้ำอะคริลิก วาดลงบนผ้าใบแคนวาส แล้วนำไปติดตั้งบนผนัง เก็บรายละเอียดงาน วาดรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อความเสมือนจริง จากนั้นเคลือบน้ำยาพิเศษเพื่อให้ภาพดูเงางาม ทนทานและสามารถใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายยิ่งขึ้น แล้วจึงติดตั้งหลอดไฟส่องสว่าง เพื่อให้มีมิติและมีความเสมือนจริงมากที่สุด ให้ความรู้สึกของคนที่เข้าไปร่วมสัมผัสเป็นส่วนหนึ่งของผลงาน อันจะมีผลต่อการรับรู้หลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง สร้างสุนทรียภาพต่อความรู้สึกและจิตใจ และทำให้เกิดการบอกเล่า ขณะเดียวกัน อาจารย์และนักศึกษาผู้สร้างสรรค์ผลงานก็ได้ใช้ความรู้ภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติงานจริงในสาขาวิชาที่ได้ศึกษาด้วยความตั้งใจอยากให้งานศิลปะนี้ช่วยกล่อมเกลาและลดความแข็งกระด้างในใจลงได้”
สำหรับภาพปริศนาธรรมสามมิติ ทั้ง29 ภาพ ประกอบด้วย ภาพตัณหานที(สื่อถึง ตัณหาน้ำ 3 สระ) กาย-จิต(รูปธรรมนามธรรม) นฤมิตจันทรคราส (ความสามัคคีราหูกับดวงจันทร์) อวิชชา-โลกาวินาศ (การแบกภาระหนักอันเป็นห้วงแห่งทุกข์) ฝนตกซัดสาด ห้วงน้ำท่วมใจ(ความสนุกสนาน จนลืมไปว่ามีอันตรายซ่อนอยู่) ไถนาดินแห้ง ร้อนแล้งขัดใจ (ความลำบากยากแค้น) เบญจบุปผาพญามาร (หลงในความงามความเพลิดเพลิน) กิเลสมาร-กาลยักษ์ (พญากิเลส) สะพานมเหสักข์-ศีล(สะพานแห่งความไม่ประมาท) แม่น้ำคด-น้ำไม่คด อินทรีย์(อายตนะ 6) ต้นไม้แห่งไตรลักษณ์ ความโลภ (ดิ้นรน ไม่เป็นสุข มีจิตหิวโหย) ความโกรธ (จุดไฟเผาตัวเอง) ความหลง (เห็นผิดไปจากสภาวธรรมที่แท้จริง) ความกลัว (สิ่งทำลายความสุข) บำเพ็ญ นวโลกุตรธรรม(เสพเสนาสนะอันสงบ) โลกธรรม 8 (อยู่ให้เหมือนลิ้น งูในปากงู) ความพอใจและไม่พอใจ มหาเจดีย์แห่งการตรัสรู้ มรรค ผล(ลำดับแห่งมรรคผล 4 ระดับ) วงล้อแห่งธรรม(การเผยแผ่พระพุทธศาสนา)
และสุดท้ายเป็นภาพการหลุดพ้นสู่นิพพาน ประกอบด้วยภาพหลงยึดมายา ภาพทางสู่สวรรค์ และภาพนิพพาน (เรือสัมมาทิฏฐิ) โดยผลงานทั้งหมดคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมี.ค.นี้และจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน