ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560
“CHORKOON” สินค้าแปรรูปมาจากตำรับสมุนไพรในพระคัมภีร์แพทย์แผนไทย เปิดช่องทางขายหลากหลาย ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ขายส่ง เริ่มส่งออกหลังปรับปรุงมาตรฐานฮาลาลเสร็จ พร้อมโฟกัสร่วมงานแฟร์ขยายฐานลูกค้ากับหน่วยงานรัฐ
นายศิริพัฒน์ มีทับทิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช่อคูน เรมีดี้ จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตสินค้าแปรรูปมาจากตำรับสมุนไพรในพระคัมภีร์แพทย์แผนไทย เช่น เจลอาบน้ำ เซรั่ม ยาสีฟันสมุนไพร แชมพูสระผม รวมไปถึงอาหารเสริมภายใต้แบรนด์ “CHORKOON” หรือช่อคูนโดยผลิตภัณฑ์ทุกประเภทจะใช้วัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรเช่น สะเดา ฝักคูน เมล็ดพันธุ์ผักกาด ฯลฯ และวัตถุดิบธรรมชาติจากมาตรฐาน ECOCERT เป็นเครื่องหมายรับรอง “มาตรฐานการควบคุมกำกับกระบวนการแบบอินทรีย์” ของประเทศฝรั่งเศส มีมาตรฐานเทียบเท่าและเป็นที่ยอมรับของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้นำของตรารับรองมาตรฐานการใส่ใจธรรมชาติที่มีชื่อเสียงในระดับสากล
ทั้งนี้ธุรกิจเริ่มเปิดดำเนินการมาแล้ว 4 ปี ใช้โรงงานที่หนองแขม กทม.ทำการผลิตโดยปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายหลายช่องทางทั้งขายผ่านออนไลน์ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก และไลน์ ภายใต้ชื่อ “CHORKOON” รวมถึงขายที่หน้าร้านทุกร้านเพื่อสุขภาพ หรือร้านที่เป็นกรีนทั้งหลาย โดยบริษัทเพิ่งมีการขายส่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ ส่วนตลาดส่งออกน่าจะเริ่มได้หลังจากที่บริษัทปรับปรุงมาตรฐานฮาลาลให้เรียบร้อยภายในปีนี้
ส่วนแผนกระตุ้นตลาด บริษัทให้ความสำคัญกับการออกงานแสดงสินค้าต่างๆ เช่น ร่วมงาน Organic & Natural EXPO 2016 กับกระทรวงพาณิชย์เมื่อปีที่ผ่านมา และจะร่วมงานอีกในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้ หรืองาน ไทยแลนด์อินโนเวชั่นแอนด์ดีไซน์เอ็กซ์โป 2015 และปี 2016 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ทำให้ได้ขยายฐานลูกค้า และทำความเข้าใจกับผู้บริโภคได้มากขึ้น เนื่องจากชื่อสินค้าจะมีสูตรแปลกๆ คนรุ่นใหม่ไม่คุ้นเคย โดยสินค้าจะเจาะตลาดคนอายุ 35 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ เป็นระดับผู้บริหาร และกลุ่มคนสูงอายุที่ห่วงใยสุขภาพ
“ยกตัวอย่างยาสีฟันตำรับสมุนไพรทันตะมูลา (คัมภีร์ทิพมาลา ในตำราแพทยศาสตรสงเคราะห์ฉบับวัดโพธิ์) อ่อนโยนจากวัตถุดิบธรรมชาติ (ECOCERT) ช่วยดูแลผู้ที่มีปัญหาสุขภาพในช่องปาก เช่น ร้อนใน เหงือกร่น เสียวฟัน”
อย่างไรก็ตามสำหรับรายได้บริษัทยังไม่อยากเผยแพร่มากเนื่องจากยังทำรายได้ไม่มากค่อยๆขยับจากหลักแสนในปี 2560 นี้จะมีรายได้โตเป็นตัวเลข 7 หลักหรือราว 5 ล้านบาทต่อปีโดยบริษัทมองว่าในอนาคตการแข่งขันของไทยมีสูงขึ้น ตำรับแพทย์แผนไทยจะไปแข่งขันกับของนอกสู้ยาก แต่เราเอาต้นทุนที่เรามีเป็นองค์ความรู้ ตำรับสมุนไพรนำออกมาใช้ให้เป็นที่รู้จัก ก็จะทำให้สมุนไพรไทยมีชื่อเสียง และสินค้าติดตลาดมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ Organic Oral Care ถูกพัฒนามาจากตำรับ ทันตะมูลา ซึ่งมาจากคัมภีร์ทิพมาลาของไทยโดยมีสรรพคุณในการรักษาฝีและแผลในช่องปาก ซึ่งประกอบไปด้วยสมุนไพรหลักๆ ถึง 8 ชนิดที่มีสรรพคุณทางยานอกจากข้อมูลในตำรายาของไทยแล้วยังมีข้อมูลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่รองรับฤทธิ์ทางชีวภาพของสมุนไพรดังกล่าว
นอกจากนี้ทางบริษัท ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในการทำงานวิจัยทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพ ฤทธิ์การยับยั้งแบคทีเรีย และความเป็นพิษต่อเซลล์ผิวหนัง โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก iTAP(สวทช.) ปี 2558 จากผลงานวิจัยดังกล่าวช่วยยืนยันเรื่องประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยได้เป็นอย่างดีซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องตลาดที่ยังขาดผลการยืนยันจากทางวิทยาศาสตร์
